นายภูดินันท์ เศรษฐนันท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ พัฒนาผลิตภัณฑ์การเงิน ธุรกิจผลิตภัณฑ์การเงิน และผู้บริหารการขายลูกค้าบุคคลธนกิจ ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มดอกเบี้ยเงินฝากของไทยลดลงเรื่อยๆ โดยช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ดอกเบี้ยฝากประจำ 1 ปี ได้ดอกเบี้ย 3% ต่อปี แต่ 10 ปีผ่านมา ดอกเบี้ยเงินฝากเหลือแค่ 0.5% ในปัจจุบัน หรือบางธนาคารมีโปรโมชั่นดอกเบี้ยสูงพิเศษชั่วคราว 1-2% ต่อปี เข้ามาตอบโจทย์ภาวะดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งคนส่วนใหญ่ยังคุ้มกับการออมเงินด้วยเงินฝากธนาคาร ในขณะที่ยังมีช่องทางออมอื่นๆ ที่หลากหลาย เช่น ตลาดหุ้นกู้เป็นการลงทุนคล้ายฝากเงิน แต่มีโอกาสได้ผลตอบแทนสูง 3 เท่า หรืออยู่ที่ 1.5-4% ต่อปี
สำหรับภาวะตลาดหุ้นกู้ไทยโดยรวมมีพัฒนาการเติบโตขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ ตามพัฒนาการของประเทศ ซึ่งปัจจุบันตลาดหุ้นกู้ของไทยมีมูลค่า 14 ล้านล้านบาท ขณะที่การปล่อยสินเชื่อในระบบธนาคารมี 16 ล้านล้านบาท เห็นถึงว่าตลาดหุ้นกู้ในไทยเริ่มใกล้เข้ามาเทียบเคียงตลาดสินเชื่อแล้ว เหมือนกับในต่างประเทศที่ตลาดหุ้นกู้เติบโตกว่า 2-3 เท่าตัว นั่นหมายถึงภาคธุรกิจเอกชนลดการพึ่งพาสินเชื่อธนาคารลง และหันมาระดมทุนเองมากขึ้น
ส่วนเป้าหมายการออกหุ้นกู้ธนาคารซีไอเอ็มบีไทยปี 64 จะอยู่ที่ 18,000 ล้านบาท ขณะที่ปี 65 ตั้งเป้าเติบโต 30% จากปี 64โดยธนาคารซีไอเอ็มบีไทยมีส่วนแบ่งทางการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) 51% ของตราสารหนี้ตลาดรอง ถือว่าครองตลาดหุ้นกู้ในไทยระดับสูง โดยธนาคารใช้กลยุทธ์การเข้าใจความต้องการลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าอยากลงทุนตลาดหุ้นกู้กับธนาคาร
“พยายามบุกเบิกหุ้นกู้ตลาดรอง เพื่อให้คนไทยมีทางเลือกการออม ที่ทำให้เงินทำงานหนักขึ้นในเวลาเท่าเดิม สร้างผลตอบแทนได้สูงขึ้น และเปิดใจให้การลงทุนในหุ้นกู้ หวังว่าตลาดตราสารหนี้จะเข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้น และเติบโตมากขึ้นจากนักลงทุนรายย่อย เพื่อเป็นแหล่งระดมทุนที่สำคัญของทั้งภาครัฐและเอกชน ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไป”
นายกรกฏ กมลเนตรพิสุทธิ์ ผู้บริหารธุรกิจผลิตภัณฑ์ตราสารหนี้ และเงินตราต่างประเทศ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า เป้าหมายถัดไปคือการส่งต่อความมั่งคั่งให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อเดินหน้าทำตามพันธกิจของธนาคาร คือ Forward your wealth ส่งต่อความรวย 3 ด้าน คือ รวยรายได้ จากดอกเบี้ย สม่ำเสมอ และมั่นคง รวยปัญญา สร้างองค์ความรู้ ให้ลูกค้า เลือกลงทุนอย่างมั่นใจ และรวยโอกาส สร้างโอกาส เพิ่มพูนความมั่งคั่งให้พอร์ตลงทุน
“อยากให้ลูกค้า ลบภาพประสบการณ์ของการลงทุนในหุ้นกู้เดิมๆ ที่เคยพบเจอมา ไม่ว่าจะเป็น จองซื้อหุ้นกู้ไม่เคยทัน เพราะโดนตัดหน้า, ไม่กล้าลงทุน เพราะคิดว่ายุ่งยาก, พลาดโอกาสลงทุนหุ้นกู้ใหม่ๆ เพราะขีดจำกัดด้านเงินลงทุน หรือไม่มั่นใจลงทุนในหุ้นกู้ เพราะขาดคำแนะนำ”
