สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(กพท.) แจ้งว่า กพท. ได้จัดสรรจำนวนที่นั่ง7,000 ที่นั่งต่อสัปดาห์ ที่ได้รับจากการเจรจาสิทธิการบินระหว่างประเทศไทย และประเทศอินเดีย สำหรับเส้นทางบินไปยัง 6 เมืองสำคัญในอินเดีย (มุมไบ, เดลี, เชนไน, กัลกาตา, บังกาลอร์ และไฮเดอราบัด) ให้แก่สายการบินต่างๆของประเทศไทยอย่างลงตัวแล้ว โดยจะเริ่มทำการบินตั้งแต่เดือน พ.ย.67 ซึ่งในระหว่างนี้สายการบินจะต้องเร่งดำเนินการทั้งด้านการขออนุญาตทำการบินเข้า และการขอเวลาการทำการบินตามเส้นทางที่ได้รับการจัดสรรจากหน่วยงานฝั่งอินเดีย รวมทั้งการเตรียมทำการตลาดอย่างเหมาะสมต่อไป
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/06/3179B76B-BE14-4677-A966-06B6CDF52B9D.jpeg)
ปัจจุบันจำนวนผู้โดยสารเส้นทางไทย-อินเดีย กลับสู่ระดับใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 โดยตั้งแต่ช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ หรือเดือน เม.ย.67 มีผู้โดยสารประมาณ 7,000 คนต่อวัน ซึ่งการเพิ่มจำนวนที่นั่งนี้จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้โดยสารจากทั้งสองฝั่งได้อีกประมาณ 2,000 คนต่อวัน อย่างไรก็ตามสายการบินของไทยได้รับความนิยมจากผู้โดยสารชาวอินเดียอย่างมาก อีกทั้งเส้นทางบินระหว่างไทยและอินเดียก็ไม่ไกลมากนัก ทำให้สายการบินสามารถใช้ประโยชน์จากอากาศยานได้อย่างเต็มที่โดยการบินในช่วงกลางคืน และกลับมาในช่วงเช้า
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/06/6B962ADB-7D7F-4333-935E-DB5C8EBD649A.jpeg)
สำหรับการบินระหว่างไทย และอินเดีย ยังคงต้องมีการเจรจาเพื่อขอเพิ่มจำนวนที่นั่ง และเที่ยวบินเป็นระยะ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องดำเนินการต่อไป เพื่อเพิ่มจุดหมายปลายทาง และจำนวนผู้โดยสารเข้าออกประเทศไทยตามนโยบาย Aviation Hub ของรัฐบาล อย่างไรก็ตามการเพิ่มจำนวนที่นั่งในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาการเชื่อมโยงระหว่างไทยและอินเดีย และจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศอย่างมีนัยสำคัญ.