หลินอ้ายหลิง ช่างเสริมสวยชาวมาเลเซียวัย 37 ปีซึ่งย้ายมาทำงานในสิงคโปร์เปิดเผยประสบการณ์เฉียดความตายของตัวเอง ซึ่งมีสาเหตุมาจากอาการป่วยที่ดูเหมือนจะไม่ร้ายแรงอะไรนัก

หลินเล่าว่าตอนแรก เธอรู้สึกไม่สบายท้อง เลยคิดว่าคงจะกินของผิดสำแดง ทำให้มีอาการอาหารเป็นพิษ เธอจึงไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจรักษา ซึ่งหลังจากตรวจรอบแรก แพทย์ก็สั่งยามาให้เธอ เป็นยาลดไข้และแก้ปวดท้อง

ผ่านไป 2 วัน อาการของหลินก็ยังไม่ดีขึ้น เธอจึงไปโรงพยาบาลรอบที่ 2 และแพทย์ก็ส่งตัวเธอเข้าห้องฉุกเฉินในทันที

หลินเล่าว่าหลังจากนั้นเธอก็หมดสติไป มารู้ตัวอีกทีก็เห็นตัวเองนอนอยู่ในเตียงโรงพยาบาล มีทีมศัลยแพทย์ห้อมล้อมเธอหลายคนและแจ้งข่าวร้ายที่สุดในชีวิตแก่เธอและครอบครัว

ทีมแพทย์บอกว่า หลินป่วยเป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียที่ไม่สามารถระบุได้ ซึ่งมีอาการร้ายแรงมากเพราะทำให้ระบบลำเลียงออกซิเจนตามเส้นเลือดในร่างกายของเธอหยุดทำงาน ทำให้ออกซิเจนเข้าไม่ถึงหัวใจของเธอและมีสภาพอ่อนแอลงอย่างรวดเร็วจนเสี่ยงต่ออาการสมองตายและเสียชีวิต

หลินอ้ายหลิงก่อนล้มป่วยจนเกือบตาย

ทีมแพทย์ยังบอกเธอว่า ยังพอมีโอกาสอันน้อยนิดในการรักษาด้วยการฉีดยากระตุ้นการไหลเวียนของเลือด แต่ก็ต้องเสี่ยงต่อผลข้างเคียงที่ร้ายแรง ซึ่งก็คืออาจจะมีผลทำให้เนื้อเยื่อนิ้วมือนิ้วเท้าของเธอเสื่อมสภาพและตายไป 

หลินตกลงใจที่จะรับยาฉีด ในตอนแรกเธอและครอบครัวคิดว่าอย่างมากก็แค่เสียนิ้วมือไปสักข้างหนึ่ง แต่หลังจากนั้นเธอและครอบครัวก็ต้องอกสั่นขวัญแขวนเมื่อเห็นทั้งมือและเท้าของเธอค่อย ๆ กลายเป็นสีดำสนิท เพราะเนื้อเยื่อตาย หลินรู้สึกว่ามือและเท้าของเธอหนักมากและขยับไม่ได้เลย

มือและเท้าของหลินกายเป็นสีดำ เนื่องจากเนื้อเยื่อตายจากการติดเชื้อลุกลาม

ทีมแพทย์บอกว่าแขนและขาของเธอเกิดติดเชื้อเพิ่มเติม เนื้อตายค่อย ๆ ลุกลามไปตามแขน-ขา ทำให้จำเป็นต้องตัดอวัยวะเหล่านี้ออกเพื่อรักษาชีวิตของเธอไว้

หลินเล่าว่าเธอตัดสินใจให้หมอตัดมือและข้อมือของเธอทิ้งทั้ง 2 ข้างในวันที่ 29 พ.ย. ปีที่แล้ว และตัดขาทั้งสองของเธอตั้งแต่ใต้เข่าลงไปในวันที่ 19 ของเดือนถัดมา

เท่านั้นยังไม่พอ หลินยังสูญเสียเงินเก็บทั้งชีวิตจำนวนไม่ต่ำกว่า 300,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือเกือบ 11 ล้านบาท เพื่อจ่ายค่ารักษาทั้งหมด

ปัจจุบัน หลินกลับมาอยู่กับครอบครัวที่เมืองอีโปะห์ ประเทศมาเลเซีย ตอนนี้เธอกลายเป็นคนไม่มีรายได้ ต้องพึ่งพาพี่น้องให้ช่วยดูแล ซึ่งเธอทำใจยอมรับได้ยากมากในตอนแรก แต่สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจว่าจะสู้ชีวิตต่อไป

หลินเลือกใส่ขาเทียมก่อน เพราะเงินไม่พอ

เนื่องจากหลินมีเงินไม่พอ เธอจึงต้องเลือกระหว่างการสั่งทำขาเทียมหรือมือเทียมซึ่งสุดท้ายเธอก็เลือกขาเทียมมูลค่า 15,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือเกือบ 550,000 บาท โดยบริษัทประกันชีวิตจ่ายเงินให้แล้วเธอผ่อนชำระคืนเป็นงวด ๆ

ที่มา : ladbible.com, mustsharenews.com

เครดิตภาพ : Shin Min Daily News