เมื่อวันที่ 7 ต.ค.64 ณ กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.คมนาคม พร้อมคณะ มอบนโยบายและติดตามผลการดำเนินงานตามภารกิจและโครงการสำคัญของกรมการขนส่งทางบก พร้อมตรวจเยี่ยมการให้บริการ Drive Thru for Tax ศูนย์บริหารจัดการเดินรถระบบ GPS และศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน 1584 โดยมีนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดี ขบ. และผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานสรุปผลการดำเนินงาน พร้อมรับมอบนโยบายเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ

นายวีรศักดิ์ เปิดเผยว่า ขบ. เป็นหน่วยงานสำคัญในสังกัดกระทรวงคมนาคม ซึ่งดำเนินงานมุ่งเน้นพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งทางบกให้มีคุณภาพ ปลอดภัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และตอบสนองทุกความต้องการของประชาชนในยุคดิจิทัล รวมถึงขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม ทั้งนโยบายเร่งด่วนด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน

ซึ่งที่ผ่านมา ขบ. นำนโยบายไปสู่การปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเร่งผลักดันให้เกิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (Hard Side) และกฎ ระเบียบ มาตรการและแนวทางการบริหารจัดการ (Soft Side) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์ของผู้ประกอบการขนส่ง โดยเปิดให้บริการสถานีขนส่งสินค้าในเมืองหลักและสถานีขนส่งสินค้าชายแดน การปฏิรูประบบรถโดยสารประจำทางในเขตกรุงเทพฯ และจังหวัดที่มีเส้นทางต่อเนื่อง เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะให้แก่ประชาชน

นายวีรศักดิ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ได้มอบนโนบายการเตรียมความพร้อม เพื่อเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มเติม ซึ่งดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล สั่งการให้ ขบ. ติดตามสถานการณ์ และเตรียมความพร้อมด้านการอำนวยความสะดวกประชาชน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนในการเดินทาง และกำชับผู้ประกอบการขนส่งให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยให้ผู้ประกอบการขนส่งคัดกรองผู้โดยสาร ตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเข้มงวด ตรวจวัดอุณหภูมิ สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดการเดินทาง

จัดที่นั่งหรือที่ยืนสำหรับผู้โดยสารตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) และการจัดเก็บบันทึกข้อมูลตามที่ศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก. ศบค.) กรุงเทพฯ จังหวัด คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหรือ ขบ. ประกาศกำหนด พร้อมสั่งการให้ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิด เตรียมแผนป้องกันและรับมือหากเกิดผลกระทบสถานการณ์อุทกภัย และอำนวยความสะดวกประชาชนที่มารับบริการในพื้นที่เสี่ยง โดยประชาสัมพันธ์ให้ทราบโดยทั่วกัน

นายวีรศักดิ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้การกำหนดมาตรการเพื่อความปลอดภัยในการขนส่งทางบก เพื่อป้องกันและลดการเกิดอุบัติเหตุทางถนน การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อกำหนดแนวทาง มาตรการขับเคลื่อนการใช้ยานยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในระบบขนส่งสาธารณะในรูปแบบ Smart Bus อย่างเป็นรูปธรรม การออกกฎระเบียบรถยนต์รับจ้างทางเลือกผ่านระบบแอพลิเคชัน เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนนำทรัพยากรที่มีอยู่มาใช้ให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดตามแนวทางเศรษฐกิจแบ่งปัน (Sharing Economy) เพื่อเพิ่มทางเลือกในการใช้บริการรถยนต์รับจ้าง และกลุ่มผู้ขับรถแท็กซี่เดิมก็ได้รับประโยชน์จากการให้บริการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้มีช่องทางการสร้างรายได้เพิ่มขึ้น

รวมทั้งการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) โดยเข้มงวดการตรวจควันดำรถบรรทุก และรถโดยสารทั่วประเทศ ตั้งแต่ 1 ต.ค.63-30 ก.ย.64 แล้วทั้งสิ้น 255,379 คัน รวมไปถึงการต่อยอดนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาระบบการขนส่งทางบก และให้บริการประชาชน เพื่อยกระดับการให้บริการ ตอบสนองความต้องการของประชาชน อาทิ แอพพลิเคชัน DLT Vehicle Tax สำหรับรับชำระภาษีรถประจำปี รวมถึงให้บริการผ่านตู้รับชำระภาษีรถประจำปีอัตโนมัติ (Kiosk) และระบบงานใบอนุญาตประกอบการขนส่งอิเล็กทรอนิกส์ (DLT e-Transport License) เน้นย้ำให้ลดขั้นตอนการติดต่อราชการ สู่ระบบดิจิทัลแบบ New Normal