สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. เกี่ยวกับเหตุการณ์โจมตีหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองซิตตเว ซึ่งเป็นเมืองเอกของรัฐยะไข่ ที่อยู่ทางตะวันตกของเมียนมา เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 76 ราย

สถานีโทรทัศน์แห่งชาติเมียนมา (เอ็มอาร์ทีวี) เผยแพร่แถลงการณ์ของกองทัพเมียนมา ปฏิเสธมีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และกล่าวว่า ความรุนแรงทั้งหมดเป็นผลจากการโจมตีของกองทัพอาระกัน (เอเอ) ซึ่งเป็นกองกำลังชาติพันธุ์ติดอาวุธขนาดใหญ่ และมีอิทธิพลมากในรัฐยะไข่


อย่างไรก็ตาม เอเอยังคงยืนกรานว่า กองทัพเมียนมาโจมตีหมู่บ้านแห่งดังกล่าว และทำลายบ้านเรือนของประชาชนด้วย


ด้าน พล.จ.จอ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมา กล่าวว่า กองทัพส่งทหารเข้าไปในหมู่บ้านที่เกิดเหตุ เมื่อวันที่ 29 พ.ค. ที่ผ่านมา และจับกุมผู้ต้องสงสัยเป็นนักรบของเอเอได้ประมาณ 20 คน ตอนนี้อยู่ระหว่างนำตัวมาสอบปากคำ


อนึ่ง กองทัพเมียนมาและนักรบเอเอสู้รบกันอย่างดุเดือดต่อเนื่อง ก่อนเกิดการรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2564 แม้ทั้งสองฝ่ายมีข้อตกลงหยุดยิงร่วมกัน หลังเกิดการยึดอำนาจ แต่สิ้นสุดไปเมื่อเดือน พ.ย. ปีที่แล้ว จากการที่กองทัพเมียนมากล่าวหากองกำลังอาระกัน ว่าโจมตีฐานปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง


ปัจจุบัน การสู้รบเกิดขึ้นในอย่างน้อย 15 เขต จากทั้งหมด 17 เขตในรัฐยะไข่ และทำให้มีผู้พลัดถิ่นจากการสู้รบระลอกนี้ เพิ่มเป็นมากกว่า 300,000 คน นอกเหนือจากการที่กองทัพเมียนมา เปิดปฏิบัติการทางทหารในรัฐยะไข่ เมื่อปี 2560 ทำให้มีชาวโรฮีนจาลี้ภัยมากกว่า 1 ล้านคน และมีการฟ้องร้องที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ไอซีเจ) หรือศาลโลก ว่ากองทัพเมียนมาละเมิดอนุสัญญาระหว่างประเทศ เกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์.

เครดิตภาพ : AFP