เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่ห้องประชุมเมืองคนดี ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี พล.ต.อนุสรณ์ โออุไร รองแม่ทัพภาคที่ 4/รอง ผอ.รมน.ภาค 4 เป็นประธานประชุมกำหนดแนวทางในการบูรณาการการปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานในการแก้ไขปัญหาการบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, การถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดิน, การก่อสร้างอาคารบนยอดเขาสูงชัน, การจัดตั้งบริษัทจดทะเบียนโดยกลุ่มทุนต่างชาติและนอมินีชาวไทยที่ขัดต่อกฎหมาย ในพื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โดยมี นายนันทวัช เจริญวรรณ รอง ผวจ.สุราษฎร์ธานี ในฐานะ รอง ผอ.รมน.จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ นายอำเภอเกาะสมุย, อัยการจังหวัด, ที่ดิน, ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด, โยธาธิการและผังเมือง, พาณิชย์จังหวัด, สรรพากรพื้นที่, ดีเอสไอ เขตพื้นที่ 8, ป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ เขต 8, ป.ป.ช.ภาค 8 และชุดปฏิบัติการสืบสวนสอบสวน ศูนย์ปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตำรวจภูธรภาค 8

โดยในที่ประชุม พ.อ.ดุสิต เกสรแก้ว หัวหน้าชุดตรวจสอบ และคณะทำงาน กร.รมน.ภาค 4 ได้บรรยายสรุปถึงความคืบหน้าและแผนการทำงานเข้าตรวจสอบ โดยใช้รูปแบบการทำงานแบบบูรณาการ ภายใต้ปฏิบัติการ ”สมุยโมเดล” ซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ผู้บังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตาม พ.ร.บ.โรงแรม พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร และ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของบุคคลต่างด้าว จำนวน 8 หน่วยงาน และในแต่ละชุดจะมีล่ามผู้แปลภาษา ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนในพื้นที่เกาะสมุย เรียกว่าชุดปฏิบัติการมีหน้าที่เข้าตรวจสอบวิลล่าที่พักและสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ 6 จุดเป้าหมาย จำนวน 600 แห่ง ตรวจเก็บพยานหลักฐาน ส่งให้ชุดสอบสวนดำเนินการสอบสวนปากคำและรวบรวมพยานหลักฐาน เข้ากล่าวโทษกับพนักงานสอบสวนพื้นที่เกิดเหตุ โดยจะเริ่มปฏิบัติการทันทีที่ ผอ.รมน.จังหวัดลงนามในคำสั่งแต่งตั้งชุดปฏิบัติการ

ขณะที่ นายนันทวัช เจริญวรรณ รอง ผวจ.สุราษฎร์ธานี ในฐานะ รอง ผอ.รมน.จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ทางจังหวัดพร้อมให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาการบุกรุกถือครองที่ดินของรัฐ และการประกอบธุรกิจของชาวต่างชาติบนเกาะสมุย เพื่อให้สามารถยับยั้งและแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แต่ยอมรับว่าปัญหานี้เกิดขึ้นมาระยะหนึ่งแล้ว ทำให้เกิดการหมักหมม มีหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายหลายหน่วยงานเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ทำให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างล่าช้า แต่เมื่อมีการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาทำงานแก้ไขร่วมกัน เชื่อว่าจะสำเร็จและทางจังหวัดพร้อมให้ความร่วมมือในทุกมิติ

ด้าน พล.ต.อนุสรณ์ โออุไร รองแม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า แม้ว่าขณะนี้เรายังไม่สามารถดำเนินการเข้าตรวจสอบตามแผนปฏิบัติการสมุยโมเดลได้เต็มรูปแบบ เนื่องจากติดขัดในเรื่องบุคลากร ที่บางหน่วยงานมีกำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ แต่ในส่วนของ รมน.ภาค 4 ซึ่งเรามีคณะทำงานหลักอยู่แล้วก็จะเดินหน้าทำงานต่อไป โดยในสัปดาห์หน้า พนักงานสอบสวน กอ.รมน.จะเข้ากล่าวโทษ 2 บริษัทนิติบุคคล ที่ประกอบธุรกิจวิลล่าให้เช่าบนเขาหมาแหงน ต่อพนักงานสอบสวน สภ.บ่อผุด เพื่อดำเนินคดีในข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ. 2 โรงแรม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร และ พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม ซึ่งในการทำงานแก้ไข หาก กอ.รมน.ไม่ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็คงต้องดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาดต่อไป เพราะหากยังคงปล่อยทิ้งไว้ ปัญหาก็จะยิ่งเรื้อรังและบานปลาย จนไม่มีหนทางแก้ไข

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ภายหลังการประชุมร่วมกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องแล้ว พล.ต.อนุสรณ์ พร้อมด้วยคณะทำงานฯ กอ.รมน.ภาค 4 ได้เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ไปยังเขาหมาแหงน ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย เพื่อตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมร่วมกับคณะทำงานสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ลงพื้นที่เก็บข้อมูล และจะนำเข้าสู่ที่ประชุมระหว่างผู้ตรวจการแผ่นดิน กับ ผอ.รมน.ภาค 4 ในสัปดาห์หน้าที่ อ.เกาะสมุย.