นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศโดยชี้ว่า “ประเทศกำลังเข้าสู่ภาวะอับจนทางเศรษฐกิจเพราะรัฐบาลไม่มีแผนรับมือที่ชัดเจนไม่มีแผนแม่บทในการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจรวมทั้งแผนปฏิรูปเศรษฐกิจเชิงโครงสร้าง ทั้งที่รัฐบาลทำงานมาเกือบปี ล่าสุดเพิ่งเรียกประชุม “ครม.เศรษฐกิจ” ครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 พ.ค. ที่ผ่านมา แต่ก็ไม่มีแผนหรือมาตรการใดๆ ออกมาอย่างเป็นรูปธรรม แม้จะมีสัญญาณชัดเจนว่าเศรษฐกิจกำลังทรุดหนักมาหลายเดือนแล้วเช่นตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาสแรกปีนี้เติบโตเพียง 1.5% ต่ำที่สุดในอาเซียนและต่ำกว่าปี 2566 ที่ขยายตัว 1.9% ในขณะที่การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) น้อยกว่าอินโดนีเซีย 7 เท่า มาเลเซีย 6 เท่า และเวียดนามกว่า 2 เท่า โดยปี 2566 เอฟดีไอ.ไหลเข้าอินโดนีเซีย 21,701 ล้านดอลลาร์, มาเลเซีย 18,500 ล้านดอลลาร์, เวียดนาม 8,255 ล้านดอลลาร์ และไทย 2,969 ล้านดอลลาร์ เมื่อไม่มีการลงทุนใหม่ๆ ก็ไม่มีการจ้างงานเพียงพอต่อลูกหลานที่จบออกมาในแต่ละปี

ส่วนมูลค่าการส่งออกที่เป็นเครื่องยนต์สร้างรายได้หลักของประเทศก็โดนเวียดนามและมาเลเซีย แซงหน้าไปแล้วโดยการส่งออก 4 เดือนแรกของปี 2567 มีมูลค่า 94,274 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่เวียดนามมีมูลค่า 123,928 ล้านดอลลาร์ และมาเลเซียมีมูลค่า 100,836 ล้านดอลลาร์ สะท้อนถึงภาวะถดถอยของขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการค้าระหว่างประเทศของไทย นอกจากนี้ เรายังมีปัญหาโคลนติดล้อ นั่นคือ “หนี้สาธารณะ” ณ 31 มี.ค. 2567 มีจํานวน 11,474,153 ล้านบาท คิดเป็น 63.67% ของ GDP โดยเป็นหนี้ของรัฐบาลกว่า 10,087,188 ล้านบาท ในขณะที่รัฐบาลยังมีแผนก่อหนี้เพิ่มขึ้นกว่าล้านล้านบาทในปีงบประมาณ 2567-2568 แต่ไม่มีแผนสร้างรายได้ที่จับต้องได้

“ประเทศต้องการการแก้ปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาวไปพร้อมๆ กัน โดยมีแผนและกลไกที่เป็นรูปธรรม รัฐบาลจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอย่างเดียวไม่ได้ ผมเคยเสนอนายกรัฐมนตรีให้หยุดหรือลดการเดินสายทั้งในและต่างประเทศลงบ้างแล้วหันมาจัดทำแผนแม่บทในการกอบกู้และปฏิรูปเศรษฐกิจโดยเร่งด่วนให้แล้วเสร็จแต่ก็ไม่ฟังกันจนเศรษฐกิจเริ่มชะงักงัน ถ้ารัฐบาลยังทำงานแบบที่ผ่านมา คนที่เดือดร้อนลำบากที่สุดคือประชาชนและประเทศไทยจะถูกทิ้งไว้ข้างหลังในการแข่งขันระดับโลก ไม่สามารถก้าวพ้นกับดักประเทศรายได้ปานกลางที่ติดหล่มมากว่า 20 ปี” นายอลงกรณ์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว