เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัย ได้ช่วยกันจับลูกงูไม่ทราบชนิด ซึ่งมีปริมาณจำนวนมากจนเต็มกระสอบ จนต้องใส่ถังดำ ขนาด 20 ลิตร ซึ่งหลังจากแม่งูได้เลื้อยเข้ามาที่ร้านข้าวต้มแห่งหนึ่ง ริมถนนแบริ่ง ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ แล้วถูกเจ้าของร้านใช้ที่คีบจับคีบเพื่อจะไปปล่อย แต่จังหวะที่คีบตัวงูกำลังจะใส่กระสอบนั้น ลูกงูได้ทะลักออกจากท้องแม่งูเกือบร้อยตัว หล่นในกระสอบจำนวนมาก แต่กลัวงูหายใจไม่ออก เลยเอาถังมาใส่

ก่อนที่งูจะเลื้อยออกมาจากถัง เลยต้องแจ้งกู้ภัยที่อยู่ใกล้เคียงมาช่วยกันจับใส่ถัง ซึ่งไม่เจอตัวแม่งูในถังแล้ว คาดว่าหลบหนีการจับกุมไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องค้นทุกซอกทุกมุม เพื่อไม่ให้ลูกงูหลงเหลืออยู่ ซึ่งหลังจากนี้จะนำลูกงูทั้งหมดส่งมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รับไปดำเนินการปล่อยคืนสู่ธรรมชาติต่อไป

นางสาวศุภนันท์ โสภากุล อายุ 35 ปี เจ้าของร้านครัวคุณเอก เล่าว่า งูเลื้อยมาจากข้างบ้าน ตนก็ตกใจ แต่ก็วิ่งไปจับงูเพื่อจะเอามาใส่กระสอบข้าวเอาไว้ตัวเดียว พอจับได้แล้ว ตนก็จะยกตัวงูขึ้นเพื่อที่จะเอาใส่กระสอบ แต่พอยก ลูกงูก็ไหลออกมาจากท้องงูตัวนั้น ตนก็ตกใจมาก ตอนแรกก็ออกมาตัวเดียว ตนก็เลยรีบเอางูยัดใส่กระสอบ พอใส่เสร็จ ลูกงูก็ไหลออกมาเพิ่มอีกเรื่อย ๆ จนเต็มกระสอบ ตนก็กลัวว่างูจะหายใจไม่ออก ก็เลยหาถังมาใส่เขาเอาไว้ ตนก็ไม่รู้ว่าเป็นงูอะไร พอเสร็จแล้ว ตนก็เอาวางไว้ก่อนเพราะลูกค้าเข้าเยอะ ตนก็ไม่คิดว่างูมันจะเลื้อยออกมา ตอนนี้งูตัวที่เป็นแม่ก็เลื้อยหายไปแล้ว ที่ตนกล้าจับงู เพราะคิดว่าลูกค้าก็นั่งกันอยู่ในร้าน กลัวลูกค้าจะตกใจ ก็เลยจับงูก่อน ใช้ไม้ง่ามที่ร้านเอาไว้คีบของมาจับ

นายเดชา บุญดี อายุ 45 ปี เล่าว่า ตนได้รับแจ้งให้มาช่วยจับงู งูเข้าร้าน ตนเลยมาดู พอมาถึงตนก็หาข้อมูลว่ามันเป็นงูอะไร เพราะงูมีจำนวนเยอะ เขาจับใส่ถังเอาไว้แล้ว แต่ตัวแม่มันเลื้อยหนีไป ตนก็ยังไม่เห็น ตอนนี้ก็ยังคิดอยู่ว่าจะเอางูพวกนี้ไปปล่อยที่ไหน เพราะยังเป็นแค่ลูกงู