สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ว่าประธานาธิบดีซูรังเกิล วิปป์ส ผู้นำปาเลา กล่าวระหว่างการเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ ว่าปาเลาตกเป็นเหยื่อของการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหญ่ ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยระบบคอมพิวเตอร์ของหน่วยงานรัฐทุกแห่งได้รับผลกระทบ


ขณะที่ผลการสอบสวนในเบื้องต้นบ่งชี้ว่า มัลแวร์ที่แฮกเกอร์ใช้โจมตีนั้นได้รับการพัฒนาในรัสเซีย การโจมตีเกิดขึ้นจากฐานปฏิบัติการที่อยู่ในมาเลเซีย และ “กระบวนการทั้งหมดมีความเชื่อมโยงไปถึงจีน” ยิ่งไปกว่านั้น “ภาครัฐ” อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการที่เกิดขึ้น เนื่องจากค่อนข้างชัดเจนว่า เป็นอาชญากรรมทางไซเบอร์ที่ไม่ได้ต้องการเงิน แต่มีเป้าประสงค์ “ต้องการสั่นคลอนความสัมพันธ์” ระหว่างปาเลากับนานาชาติ


นอกจากนี้ ปาเลาเรียกร้องความสนับสนุนที่เกี่ยวข้อง จากสหรัฐ ญี่ปุ่น และไต้หวัน เพื่อยกระดับความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้กับปาเลาด้วย


แม้ปาเลาเป็นหมู่เกาะขนาดเล็กในมหาสมุทรแปซิฟิก และมีประชากรเพียง 18,000 คน แต่มีความสำคัญอย่างมากในทางภูมิรัฐศาสตร์ เนื่องจากเป็นเพียง 1 ใน 12 ประเทศบนโลก ที่มีความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการกับไต้หวัน


อนึ่ง เดอะ นิวยอร์ก ไทม์ส รายงานว่า เอกสารของรัฐบาลปาเลาที่ถูกจารกรรมออกไปนั้น มีมากกว่า 20,000 รายการ และปฏิบัติการของแฮกเกอร์เกิดขึ้น เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา หรือภายในเวลาไม่นาน หลังปาเลาลงนามในข้อตกลงส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและความมั่นคงกับสหรัฐ ครอบคลุมกรอบระยะเวลา 20 ปี


อีกด้านหนึ่ง นางเหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า “ยังไม่ได้รับรายงาน” แต่รัฐบาลปักกิ่งมีจุดยืนชัดเจน ต่อต้านการก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ และมีการปราบปรามอย่างต่อเนื่อง.

เครดิตภาพ : AFP