สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ว่า รายงานการติดตามหนี้ทางสังคม ซึ่งจัดทำโดยมหาวิทยาลัยสันตะปาปาคาทอลิก ระบุว่า ชาวอาร์เจนตินามากกว่าครึ่งมีชีวิตอยู่อย่างยากจน และกำลังเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน ตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว โดยเฉพาะเมื่อนายฆาบิเอร์ มิเล เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี

อัตราความจนในไตรมาสแรกของปีนี้อยู่ที่ร้อยละ 55.5 โดยเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 44.7 ในไตรมาสที่ 3 ของเมื่อปี 2566 และร้อยละ 49.5 ของเมื่อเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเดือนที่มิเลสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ตัวเลขดังกล่าวระบุว่าร้อยละ 17.5 ของประชากร 46 ล้านคนของประเทศ ประสบความยากจนเกือบ 2 เท่า เมื่อเทียบกับตัวเลขของไตรมาสที่ 3 ของปีที่แล้ว ส่งผลให้รายได้ต่อเดือนอยู่ที่น้อยกว่า 292 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 10,708 บาท)

ขณะที่ค่าใช้จ่ายครัวเรือนในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคสำหรับผู้ใหญ่ หรือครอบครัวที่มีลูก 2 คน อยู่ที่ 904 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 33,153 บาท) โดยที่มีรายได้น้อยกว่า 132 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4,841 บาท) จะถือว่ามีชีวิตอยู่อย่างยากจน

ตัวเลขใหม่นี้ แย่กว่าตัวเลขล่าสุด จากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติ “อินเดก” ซึ่งระบุว่า อัตราความยากจน ณ สิ้นปี 2566 อยู่ที่ร้อยละ 41.7 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 39.2 ในปีก่อนหน้า

ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจทั้งหมดชี้ให้เห็นถึง ผลกระทบอย่างรุนแรงต่อประชากร หลังผู้นำอาร์เจนตินาประกาศลดค่าเงินเปโซลงอย่างรวดเร็ว เมื่อช่วงกลางเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเกินร้อยละ 200 รวมไปถึงอัตราการจ้างงานและผู้บริโภคลดลง

เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) เตือนว่า อัตราความยากจนขั้นรุนแรงในหมู่เด็กในอาร์เจนตินา อาจจะสูงถึง 1 ใน 5 ภายในสิ้นปี 2566

ขณะเดียวกัน รัฐบาลของมิเล ระงับการแจกจ่ายความช่วยเหลือด้านอาหาร จำนวนหลายพันตันเป็นเวลาหลายเดือน เพื่อรอการตรวจสอบโรงทาน อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนที่แล้ว ศาลอาร์เจนตินาได้สั่งให้ปล่อยอาหาร “ทันที” และให้มีการจัดระเบียบการแจกจ่ายอาหารฉุกเฉิน ในสัปดาห์นี้ ด้วยความช่วยเหลือจากกองทัพ.

เครดิตภาพ : AFP