จากกรณีนายนิพนธ์ อายุ 25 ปี และ น.ส.เฟย อายุ 19 ปี สองสามีภรรยา ร่วมกันนำศพลูกน้อย คือน้องไบรอัน เพศชาย อายุเพียงแค่ 2 เดือนเศษ ไปขุดหลุมฝังดินบริเวณเชิงเขากบ เขตเทศบาลนครนครสวรรค์ ซึ่งทั้งคู่อ้างว่า ลูกเสียชีวิตเอง จากอาการป่วยติดเชื้อที่ปอด แล้วจู่ๆ ก็หยุดหายใจ จนเสียชีวิต ซึ่งเรื่องนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายนิพนธ์ และ น.ส.เฟย ไว้เป็นผู้ต้องหาในคดี ฐานปิดบังซ่อนเร่งอำพรางศพ ก่อนจะรอผลตรวจชันสูตรสภาพการเสียชีวิตที่แท้จริงของเด็กทารกจากโรงพยาบาลออกมาอย่างเป็นทางการ ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบล่าสุด นายนิพนธ์ และ น.ส.เฟย ยังถูกควบคุมตัวไว้ภายในห้องขังของโรงพัก เพื่อสอบปากคำในประเด็นข้อสงสัยเพิ่มเติม ในการรวบรวมมาประกอบสำนวนคดี โดยในระหว่างที่ตำรวจนำตัวออกจากห้องขัง ไปสอบปากคำนายนิพนธ์ ยังคงยืนยันว่า ไม่ได้เป็นคนฆ่าลูก แต่เป็นลูกที่ป่วยและเสียชีวิตเอง ซึ่งอาการของลูกก็เริ่มไม่ดีมาตั้งแต่ที่ออกจากโรงพยาบาลแล้ว และตอนที่เสียชีวิต ก็ทำอะไรไม่ถูก คิดไม่ออกจริงๆ อีกทั้ง ยังกลัวว่าแม่ของตนจะรู้ด้วย เลยตัดสินใจเอาลูกไปฝัง ก่อนที่ทั้งคู่จะถูกนำตัวเข้าห้องสอบสวนไป แต่ก็ได้พูดทิ้งท้ายด้วยว่า ตอนนี้รู้สึกคิดถึงลูกมาก

ด้าน พ.ต.อ.เสฎฐวุฒิ รอดจันทร์ ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ เปิดเผยว่า คดีดังกล่าว ยังไม่พบมีพิรุธอะไร และจากการตรวจสอบประวัติของนายนิพนธ์ ก็ทราบว่า เจ้าตัวเพิ่งตกงาน จึงยังไม่มีงานทำ เลยทำให้ยังไม่มีความพร้อมในการเลี้ยงลูก ซึ่งในการสอบปากคำ ก็ทราบจากเจ้าตัวอีกว่า ตอนลูกยังมีชีวิตอยู่ ก็มักจะมีการพาไปฝากเลี้ยงไว้กับบรรดาเพื่อนฝูงอยู่ตลอด จนถึงขั้นจะยกลูกให้เพื่อนไปเลี้ยงดูแลแทนด้วย ซึ่งที่ผ่านมา ส่วนใหญ่แม่ของนายนิพนธ์ จะคอยช่วยออกค่าใช้จ่ายในการช่วยเลี้ยงดูเด็ก

ส่วนภาพรวมของคดีนี้ ก็ใกล้จะครบถ้วนแล้ว แต่ยังคงต้องมีการรอสอบปากคำกับบรรดาเพื่อนๆ ของนายนิพนธ์ และรอผลการชันสูตรจากโรงพยาบาลออกมาเสียก่อน ซึ่งขณะนี้ ตำรวจยังมองว่า ไม่น่าจะใช่เป็นฆาตกรรมอะไร เพราะได้ตรวจวิเคราะห์ทุกอย่างแล้ว ยังไม่มีพยานหลักฐานอะไรไปถึงขั้นนั้น โดยขณะนี้มองว่า เป็นเรื่องของวัยรุ่นที่มีความไม่พร้อมจะเลี้ยงลูก ประกอบกับ ตัวของเด็กก็มีอาการป่วยตลอด จึงทำให้พ่อและแม่เด็ก เกิดความไม่อยากได้ลูกคนนี้ขึ้นมา ก็เลยปล่อยปละละเลยในเรื่องของการเลี้ยง จึงได้มีการแจ้งข้อหาแก่นายนิพนธ์ และ น.ส.เฟย เพิ่มอีก 1 ข้อหา ฐานทอดทิ้งผู้ซึ่งพึ่งตนเองมิได้เพราะอายุ ความป่วย ความเจ็บ การพิการหรือจิต พิการ และการกระทำความผิดเป็นเหตุให้ผู้ถูกทอดทิ้งถึงแก่ความตาย แต่ในส่วนของความสงสัยในเรื่องฆาตกรรมนั้น ทางตำรวจก็ยังไม่ได้ตัดทิ้ง

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังเพื่อนของนายนิพนธ์ ที่เป็นคนถ่ายคลิปบันทึกภาพคำให้การสารภาพของนายนิพนธ์ ว่า ร่วมกับภรรยานำศพลูกไปฝัง โดยนายม่อน อายุ 25 ปี กล่าวว่า ตนกับนายนิพนธ์ เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ แล้ว ส่วนน้องไบรอัน ลูกของนายนิพนธ์ ตนก็รู้สึกผูกพัน เพราะเพื่อนมักจะเอาลูกมาฝากให้ตนกับแฟนสาวช่วยเลี้ยงอยู่เป็นประจำ จนถึงขั้นเคยยกน้องไบรอันให้เป็นลูกของตนมาเลี้ยงดูแล้วช่วงหนึ่ง แต่แม่ของนายนิพนธ์ ทราบเรื่อง จึงมาขอน้องไบรอันกลับคืนไป

“วันที่รู้ว่าเพื่อนเอาศพลูกไปฝังทิ้ง ผมแปลกใจมาหลายวันก่อนหน้านี้แล้ว และวันนั้นรู้สึกคิดถึงหลาน จึงขี่รถไปพร้อมกับแฟนสาวเพื่อเยี่ยมหา แต่กลับถูกเพื่อนตอบแบบไม่สนใจ อ้างว่า เอาน้องไบรอันไปฝากให้เพื่อนอีกคนเลี้ยงไว้ จึงเค้นถามความจริงอย่างหนัก จนถึงขั้นจะวางมวยกัน ถึงยอมรับสารภาพว่า ลูกตายเลยเอาศพไปฝังไว้ที่เชิงเขา และอ้างว่าป่วยไม่หายใจตายไปเอง ผมนี่กับถึงกับร้องไห้ และอารมณ์พุ่งปรี๊ด แทบจะวิ่งไปกระโดดถีบให้ตัวปลิว เพราะรู้สึกโมโหมาก แต่เพื่อนดูไม่สะทกสะท้านอะไรเลย ทั้งที่ลูกตาย เอาแต่นั่งกดมือถือเล่นเกม แถมตอนแรก ยังไม่ยอมพาไปยังจุดที่ขุดหลุมฝังศพลูกด้วย เพราะกลัวตำรวจรู้จะจับ แถมบอกอีกว่า ลูกกูเรื่องของกู อย่ามายุ่ง” นายม่อน กล่าว

ขณะที่ น.ส.กรวิภา แฟนสาวของ นายม่อน กล่าวว่า นายนิพนธ์ และเมียเขา มักจะเอาน้องไบรอันมาทิ้งไว้ให้ตนเลี้ยงที่หอพักอยู่เสมอ แล้วก็หายตัวไปนานเป็นวัน และอีกอย่างเวลาที่ทั้งคู่อยู่เลี้ยงลูก นายนิพนธ์ ก็มักจะสูบบุหรี่รมควันเด็กอยู่ภายในห้องด้วย ตนเห็นแล้วสงสารน้องไบรอันมาก ส่วนวันที่นายนิพนธ์ กับเมียพาไปจุดที่ทิ้งศพ ตนและแฟนตั้งใจอยู่แล้วว่าจะนำร่างของน้องไปประกอบพิธีทางศาสนาเอง เพราะรู้สึกผูกพันจนรักน้องมาก แต่ก็ต้องมองความถูกต้อง ว่าหากเอาศพออกมาทำพิธีเอง จะกลายเป็นคนผิด ตกเป็นผู้ต้องหาได้ จึงตัดสินใจโทรฯ แจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัย ก่อนจะประสานให้ตำรวจมาตรวจสอบ จนกลายเป็นคดีความดังกล่าว

ส่วนเรื่องพฤติกรรมของนายนิพนธ์ นอกจากเจ้าตัวจะชอบทิ้งลูกแล้ว มักติดและชอบเล่นเกม ROV อยู่ตลอดเวลา แต่ไม่ได้มีการติดการพนัน หรือยาเสพติดอะไร จะมีก็เพียงแต่ชอบเอายาเขียว หรือยาทรามาดอล เป็นสารเสพติดอย่างหนึ่งที่หมู่วัยรุ่นชอบนำมาผสมกับน้ำอัดลมดื่ม เพื่อให้เกิดความมึนเมาเพียงแค่นั้น อีกทั้ง ตอนที่น้องไบรอันยังมีชีวิตอยู่ ก็มักจะถูกนายนิพนธ์ เอาหมอนปิดหน้าอุดจมูก เวลาที่เมาสารเสพติด และตอนที่ทะเลาะกับเมียด้วย.