ทำเอาแฟนคลับและชาวเน็ตแห่ยินดีกันหนักมากหลังสาว ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต ออกมาประกาศข่าวดีว่ากำลังตั้งท้องลูกคนที่ 3 อยู่ ท่ามกลางความสงสัยหนักมากว่าลูกคนนี้เป็นลูกสาวแน่นอนสมใจสามี น็อต วิศรุต ชัวร์ๆ เพราะคุณพ่อแอบโป๊ะแตกเบาๆ ผ่านโซเชียลก่อนหน้านี้ ซึ่งทำให้แฟนคลับกรี๊ดหนักมากเพราะอยากเห็นลูกสาวของสาวชมพู่จริงๆ

ล่าสุดสาวชมพู่ได้ออกมาเผยถึงประเด็นนี้แล้ว ในงานเปิดตัว “ดาวน์นี่ พรีเมี่ยม พาร์ฟูม” พร้อมเรื่องราวที่หลายคนสนใจกับปมดร็อปเรียนออนไลน์ของลูกแฝดทั้งสองคน

ชมพู่ เผยว่า “ตอนนี้ 3 เดือนกว่าแล้ว เริ่มกลับมาทำงานได้ ใช้ชีวิตได้ประมาณนึง ช่วงประมาณ 11 สัปดาห์หนักหน่วงเหมือนกัน แพ้หนักเลยคนนี้ ตอนแฝดถือว่าหนัก แต่ช่วงที่มันพีคๆ มันไม่ยาวขนาดนี้ ชมเข้าใจว่าตอนพี่สาย (สายฟ้า) พี่พา (พายุ) คือหนักมากแล้ว ตัวฮอร์โมนมันสูง อาการมันก็จะเยอะเลยคิดว่าคนนี้น่าจะชิล เพราะว่าแค่คนเดียว ฮอร์โมนมันไม่น่าจะพุ่งขนาดนั้น แต่กลายเป็นว่าหนักมาก บางคนก็บอกว่านี่แหละท้องผู้ชายมาก่อน แล้วมาท้องผู้หญิงมันก็จะเป็นแบบนี้แหละ ชมว่าใดๆ ก็คือแก่แหละ (หัวเราะ) จริงๆ เพิ่งจะเริ่มทานได้บ้าง ไม่นานมานี้เอง ประมาณสัปดาห์นึงที่เพิ่งจะกลับมาทานได้บ้าง ก่อนหน้านี้ก็จะมีอาการวิงเวียน คล้ายๆ ในละคร แต่ไม่มีอยากกินมะม่วงนะ มีนอนไม่หลับ ตัวร้อน อาเจียน ทานข้าวไม่ได้”

“ตอนแรกก็กะจะเงียบๆ แต่ว่ามีคนปล่อยโป๊ะไปแล้ว ก็บอกเลยว่าเป็นผู้หญิง อยากเฉลยก็เฉลยก็ได้ หลายคนก็รู้อยู่แล้วว่าเรารอผู้หญิง เรื่องชื่อลูก จริงๆ ตั้งไว้ตั้งแต่พี่สายฟ้า พายุ เกิดแล้ว คุยกันไว้ว่าถ้ามีลูกผู้หญิงจะให้ชื่อนี้ เป็นไอเดียของคุณพ่อ ยังไม่ขอบอก แต่บอกเลยว่าเดาไม่ได้ เกินคาด ชื่อแนวเดียวกับสายฟ้า พายุ ก็ได้ ช่วงที่แพ้หนักๆ พี่น็อตดูแลดูแลปกติ เวลาแพ้หนักอะไรก็ช่วยไม่ได้ เขาจะถามทุกวันว่าดีขึ้นแล้วหรือยัง วันนี้ดีขึ้นแล้วใช่ไหม คือเขาอยากได้ยินว่าเราดีขึ้นแล้ว แต่ชมว่ามันยังไม่ดีขึ้น มันทำอะไรไม่ได้จริงๆ แพ้ท้องก็คือแพ้ มันได้แต่รอเวลา ถามว่าพี่น็อตเห่อไหมปกตินะ แกไม่ค่อยแสดงออกมากอยู่แล้ว เป็นสไตล์ของแก เหมือนตอนแฝด ก็แบบนี้แหละ”

ชมพู่ เล่าต่อว่า “เรื่องสายฟ้าพายุคือเราบอกเขาตลอดอยู่แล้วเรื่องน้อง คือช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เป็นช่วงที่ชมพยายามอยู่ตลอดเวลา ก็มีเฟล ไม่ประสบความสำเร็จไปด้วย ก็จะบอกเขาตลอด ตั้งแต่วันแรกที่เราใส่ตัวอ่อน กลับมาเราก็บอกเขาว่าวันนี้ไปรับน้องกลับมานะ แม่อุ้มไม่ได้นะครับเพราะว่าต้องระวัง พอน้องไม่อยู่ก็ต้องบอกกันใหม่ ว่าน้องไม่อยู่แล้วนะ น้องกลับไปอยู่กับคุณหมอแล้ว เดี๋ยวค่อยว่ากันใหม่ เขาจะรับรู้ทุกอย่าง จนครั้งนี้เขาก็ยังถามเป็นภาษาเด็ก ประมาณว่าชัวร์แล้วใช่ไหม”

“2 ปีที่ผ่านมาชมพยายาม 4 ครั้งกว่าจะสำเร็จ มีเสียน้ำตาไปบ้าง แต่ก็คิดว่าจะไปต่อ ยังไงก็จะไปต่อ ลองให้ถึงที่สุดให้หมดข้อสงสัย ทำทุกอย่างไปทุกศาสตร์ วิทยาศาสตร์ แผนโบราณ แผนปัจจุบัน ไหว้พระทำบุญ ทำทุกอย่าง ทุกๆ ความเชื่อ เราอยากไปให้สุด ถ้าเกิดไม่ได้จะไม่เสียใจ จริงๆ สองคนนี้ ถามว่าชีวิตเรามีความสุขดีไหม ก็มีความสุขดีมาก ก็ขอลองไปให้สุดทางดูซิ จริงๆ ก็พ้นระยะเวลา 3 เดือนมาแล้ว ถือว่าค่อนข้างจะอุ่นใจประมาณนึงค่ะ แต่ด้วยความที่พยายามมานาน เราก็อาจจะตรวจบ่อยนิดนึง อยากที่จะหาคุณหมอบ่อย อยากที่จะทำอะไรเพื่อให้มั่นใจ หมอก็จะเตือนว่าเราอายุมากขึ้นแล้ว ไม่ได้เหมือนเดิมแล้ว ตอนท้องสายฟ้า พายุก็ 5 ปีที่แล้ว ร่างกายมันก็นะ มันก็มีอะไรที่มันเปลี่ยนแปลงไป พอมีคนนี้แล้วพอแล้วค่ะ”

“สำหรับประเด็นลูกๆ ดร็อปเรียนออนไลน์ นี่ก็ไม่นึกว่าจะเป็นประเด็นใหญ่ แค่โทรฯ คุยกับผู้จัดการ ก็คือปีการศึกษาที่แล้วมันค่อนข้างที่จะกระท่อนกระแท่นมาตั้งแต่ปีที่แล้ว หยุดบ้างอะไรบ้าง เรียนไม่ได้เต็มเทอม ชมเองก็ไม่ได้ให้เขาเข้าเรียนออนไลน์ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ด้วยความที่เราเป็นแค่เตรียมอนุบาลยังไม่ได้เป็นอนุบาลด้วยซ้ำ มันเลยไม่ได้มีอะไรที่เป็นวิชาการที่เขาต้องไล่ให้ทันเพื่อน คือเด็กวัยนี้การที่เขาได้ไปโรงเรียนเป็นการฝึกเรื่องการอยู่ร่วมกับผู้อื่น การเข้าสังคมหรือการฝึกฝนระเบียบวินัยเล็กๆ น้อยๆ ชมมองว่าตรงนี้สิ่งที่เราต้องการจากโรงเรียน การเรียนออนไลน์มันไม่ได้ตอบโจทย์แล้วก็ทำให้เด็กเครียด พ่อแม่ก็เครียด ชมก็รู้สึกว่าหยุดดีกว่า แต่ก็เข้าใจนะ อันนี้มันเป็นการตัดสินใจของบ้านเรา เรารู้สึกว่าเวลาตรงนี้เราไปหากิจกรรมอย่างอื่นที่เราสร้างกันมาเองในครอบครัว ที่เรารู้สึกว่ามันช่วยส่งเสริมพัฒนาการเขา แล้วเดี๋ยวเทอมหน้าค่อยมาดูกันใหม่ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร ค่อยมาว่ากันอีกที”

ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินสตาแกรม chomismaterialgirl