สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ว่านายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า “ที่ปรึกษาทางทหาร” ไม่ว่ามาจากประเทศใดก็ตาม ซึ่งเดินทางเข้ามาในยูเครน แม้อ้างว่ามีวัตถุประสงค์เพื่อฝึกฝนทางยุทธวิธี และถ่ายทอดความรู้ทางทหารให้แก่กองทัพยูเครน “แต่ไม่สามารถใช้เป็นข้ออ้างยกเว้น” จากการเป็นเป้าหมายในสมรภูมิ แบบเดียวกับทหารยูเครนได้


ท่าทีดังกล่าวของรัสเซียถือเป็น “คำเตือนล่าสุด” ต่อการที่ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ยังคงยืนกรานแนวคิด ส่งทหารเข้าไปในยูเครน


ขณะที่ พล.อ.โอเล็กซานเดอร์ ซีร์สกี ผู้บัญชาการทหารสูงสุดยูเครน กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าที่ปรึกษาทางทหารของฝรั่งเศส “จะเดินทางเข้ามาภายในเร็ววันนี้” อย่างไรก็ตาม กระทรวงกลาโหมยูเครนออกมาแก้ไขข้อมูลในเวลาต่อมาว่า “ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องหารือกัน”


อนึ่ง ผู้นำฝรั่งเศสเคยกล่าวเมื่อไม่นานมานี้ว่า หากสงครามขยายวงกว้างเข้ามาในยุโรป “ต้องโทษรัสเซีย” และเรียกร้องยุโรป “อย่าขีดเส้นแดง” เกี่ยวกับสงครามในยูเครน เนื่องจากจะยิ่งเป็นการแสดงความอ่อนแอต่อทำเนียบเครมลิน และจะยิ่งเป็นการกระตุ้นให้กองทัพรัสเซียเดินหน้าสงครามในยูเครน


นอกจากนี้ มาครงกล่าวว่า รัสเซีย “ถือเป็นฝ่ายตรงข้าม” โดยเลี่ยงการใช้คำว่า ศัตรูหรือปรปักษ์ อย่างไรก็ตาม ผู้นำฝรั่งเศสยืนยัน ไม่เคยมีความคิดทำสงครามโดยตรงกับอีกฝ่าย.

เครดิตภาพ : AFP