เมื่อวันที่ 6 ต.ค. ที่กระทรวงคมนาคม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับสภาธุรกิจสหภาพยุโรป-อาเซียน และสมาคมการค้ายูโรเปียนเพื่อธุรกิจ และการพาณิชย์ ประจำประเทศไทย ผ่านระบบการประชุมทางไกลว่า ได้หารือและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย รวมทั้งอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ เพื่อลดอุปสรรคการค้าและการลงทุน ทั้งนี้ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบที่จะจัดตั้งคณะทำงานร่วม เพื่อหารือในการนำเทคโนโลยีที่เหมาะสม มาพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ของประเทศไทย และภูมิภาคอาเซียนต่อไป

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า โครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม และการพัฒนาโครงข่ายโลจิสติกส์ของไทย เป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการเชื่อมต่อห่วงโซ่มูลค่าทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน รวมถึงการดำเนินงาน เพื่อรองรับการเดินทางระหว่างประเทศในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ความปลอดภัยด้านคมนาคม การขนส่งที่ยั่งยืน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ในโอกาสนี้ได้กล่าวถึงเป้าหมาย และความมุ่งมั่นของกระทรวงคมนาคมที่จะขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ผ่านแนวนโยบายการปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์ การสนับสนุนและส่งเสริมในภาคอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และเพิ่มการใช้พลังงานสะอาดในภาคการขนส่งครอบคลุมทางถนน ทางราง และทางน้ำ รวมทั้งนโยบายในการแก้ปัญหาการจราจร ทั้งการพัฒนาระบบ M-Flow การเร่งรัดการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน เพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน เสริมสร้างความแข็งแกร่งของห่วงโซ่อุปทาน ฟื้นฟูเศรษฐกิจที่เข้มแข็งและยั่งยืน นำไปสู่การสร้างใหม่ให้ดีกว่าเดิม โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง.