นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ตามที่อธิบดีกรมการค้าภายใน ได้สั่งการให้ปราบปรามการลักลอบขนย้ายสินค้าเกษตรอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนติดประเทศเพื่อนบ้าน ตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายภูมิธรรม เวชยชัย) ที่ให้กระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าภายในกำกับดูแลราคาสินค้าเกษตรและป้องกันมิให้มีการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อราคาผลผลิตของพี่น้องเกษตรกรไทย จากในช่วงที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจเฉพาะกิจได้มีการจับกุมดำเนินคดีผู้ขนย้ายมันสำปะหลังในพื้นที่ตามแนวชายแดนจังหวัดจันทบุรีและสุรินทร์ไปแล้ว จำนวน 4 ราย ปริมาณ 137,295 กก.

กระทั่งเวลา 02.00 น. ของวันที่ 31 พฤษภาคม 2567 เจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจเฉพาะกิจ กรมการ้คาภายใน ร่วมกับนายตรวจกองชั่งตวงวัด เฝ้าสังเกตุการณ์การขนย้ายสินค้าเกษตรบริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี พบผู้ขนย้ายมันสำปะหลังเส้นจากประเทศกัมพูชา จำนวน 4 ราย ขนย้ายมันสำปะหลังเส้นในปริมาณเกินกว่าที่ได้รับอนุญาต รายละ 18,000 – 26,000 กก. มูลค่าประมาณ 774,800 บาท จึงได้ร่วมกันจับกุมผู้ขนย้ายทั้ง 4 ราย พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ดำเนินคดีในข้อหาฝ่าฝืนประกาศ กกร. ฉบับที่ 26 พ.ศ.2566 เรื่อง การควบคุมการขนย้ายหัวมันสำปะหลังสด และมันเส้น ซึ่งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายอุดม กล่าวเพิ่มเติมว่า  ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่สายตรวจปูพรมตรวจสอบการขนย้ายสินค้าเกษตรอย่างต่อเนื่องทุกพื้นที่ รวมทั้งประสานข้อมูลการนำเข้าสินค้าเกษตรกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อบูรณาการการตรวจสอบร่วมกันให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จึงขอฝากเตือนถึงผู้ประกอบการขนย้ายสินค้าเกษตรให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้  หากพบเห็นหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อขายสินค้าเกษตร รวมทั้งทราบเบาะแสการเอารัดเอาเปรียบเกษตรกรในการซื้อขายสินค้าเกษตร สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ หากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบการกระทำความผิดจะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีลักลอบขนย้ายสินค้าเกษตรหรือขนย้ายไม่เป็นไปตามที่ได้รับอนุญาต ทั้งหากไม่แสดงราคารับซื้อ หรือแสดงไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีกดราคารับซื้อต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ