สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ว่าพล.ร.อ.ต่ง จวิน รมว.กระทรวงกลาโหมจีน แถลงต่อที่ประชุมความมั่นคงภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก “แชงกรี-ลา ไดอะล็อก” ที่สิงคโปร์ โดยกล่าวถึงการหารือกับพล.อ.ลอยด์ ออสติน รมว.กระทรวงกลาโหมสหรัฐ นอกรอบการประชุมครั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการหารืออย่างเป็นทางการ ครั้งแรกในรอบ 18 เดือนระหว่างรัฐมนตรีกลาโหมทั้งสองประเทศ ว่าจีนเปิดกว้างเพื่อการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือเสมอ แต่ทั้งสองฝ่าย “ต้องพบกันครึ่งทาง”


อย่างไรก็ดี พล.ร.อ.ต่งกล่าวว่า การพบหารือหรือการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างสหรัฐกับจีน “ควรเกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ” เนื่องจากกองทัพทั้งสองประเทศยังมีจุดยืนที่แตกต่างกันอย่างมากในหลายเรื่อง

อนึ่ง จีนระงับการติดต่อทางทหารกับสหรัฐ เมื่อกลางปี 2565 จากการที่นางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในเวลานั้น เดินทางเยือนไต้หวัน


เกี่ยวกับความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบ ที่จีนจัดการซ้อมรบครั้งใหญ่รอบเกาะไต้หวัน เพียง 3 วันหลังการรับตำแหน่งผู้นำไต้หวันของประธานาธิบดีไล่ ชิง-เต๋อ พล.ร.อ.ต่ง กล่าวว่า กองทัพปลดปล่อยประชาชน ( พีแอลเอ ) คือกองกำลังที่แข็งแกร่ง ซึ่งพร้อมปกป้องนโยบายการรวมชาติของมาตุภูมิ และพร้อม “แสดงออกอย่างเฉียบขาดและด้วยพลกำลัง” ในการโอบล้อมความพยายามแบ่งแยกดินแดนของไต้หวัน เพื่อให้มั่นใจว่า อีกฝ่ายจะไม่มีทางดำเนินการสำเร็จ


ขณะเดียวกัน พล.ร.อ.ต่งกล่าวว่า “ใครก็ตาม” ที่พยายามแบ่งแยกไต้หวันออกจากจีน “จะถูกบดขยี้ให้เป็นเถ้าธุลีและเจ็บปวดกับการล่มสลายของตัวเอง”

ในประเด็นเกี่ยวกับทะเลจีนใต้ ซึ่งรัฐบาลปักกิ่งมีข้อพิพาทยืดเยื้อกับหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หนึ่งในนั้นคือ ฟิลิปปินส์ ที่เรือตรวจการณ์และเรือลาดตระเวนของทั้งสองประเทศ เผชิญหน้าและปะทะกันบ่อยครั้งมากขึ้นในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา พล.ร.อ.ต่ง กล่าวว่า “ความอดกลั้นของจีนมีขีดจำกัด”.

เครดิตภาพ : AFP