นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้ติดตามการดำเนินงานของบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) หน่วยงานผู้ให้บริการการจราจรทางอากาศ ซึ่งเป็นหน่วยงานในการกำกับดูแล โดยได้กำชับให้เตรียมพร้อมรองรับทุกสถานการณ์ ทั้งในสถานการณ์ปกติที่เที่ยวบินเพิ่มสูงขึ้นและสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดแก่ผู้โดยสารและอากาศยาน และเน้นย้ำเรื่องการประสานงานและติดตามข้อมูลด้านอุตุนิยมวิทยาการบินอย่างใกล้ชิด เพื่อนำมาวางแผนการจัดการจราจรทางอากาศ รองรับสถานการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น รวมถึงให้ศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลสถิติอุบัติการณ์ที่เกิดจากสภาพอากาศแปรปรวน (Turbulence) เส้นทางการบินที่พบหลุมอากาศบ่อยที่สุดในโลก มีความถี่ในการเกิดบ่อยหรือไม่ เท่าใด รวมทั้งขอรับทราบมาตรการรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดของทุกเที่ยวบิน

นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า สำหรับประเทศไทยในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา มีรายงานอุบัติการณ์ที่เกิดจากสภาพอากาศแปรปรวน (Turbulence) ตกหลุมอากาศ กับเครื่องบินพาณิชย์ จนมีผู้โดยสาร และลูกเรือได้รับบาดเจ็บ ขอเปลี่ยนเส้นทางบิน (Divert) และขอมาลงจอดฉุกเฉินยังประเทศไทย 4 ครั้ง จากสถิติดังกล่าว จะเห็นได้ว่า การเกิดภาวะอุบัติการณ์จากสภาพอากาศแปรปรวน (Turbulence) จนส่งผลกระทบต่อสวัสดิภาพของผู้โดยสาร มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมากอย่างไรก็ตาม ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติตามนโยบายกระทรวงคมนาคม ที่มุ่งเน้นสร้างความสะดวก รวดเร็วปลอดภัยในการเดินทางให้ประชาชน อีกทั้งให้ทำงานแบบบูรณาการ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบินของประเทศไทย และพร้อมให้การสนับสนุนภารกิจช่วยเหลือสายการบินกรณีฉุกเฉิน ตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้น ขอให้ผู้โดยสารมั่นใจได้ว่า การเดินทางทางอากาศ ว่ายังคงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัย อีกทั้งยังเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้กับประเทศอีกด้วย.