กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศนำขบวนผู้ประกอบการค้าข้าวรายเล็กจากจังหวัดที่เป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวหอมมะลิและข้าวคุณลักษณะพิเศษที่สำคัญของไทย ร่วมจัดแสดงและจำหน่ายข้าวไทยหลากหลายสายพันธุ์ในงานแสดงสินค้าอาหาร THAIFEX – Anuga Asia 2024 ระหว่างวันที่ 28 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน 2567 เพื่อเพิ่มช่องทางตลาดและผลักดันการส่งออกข้าวไทยให้เพิ่มขึ้น

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในปีนี้กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศได้นำผู้ประกอบการค้าข้าวคุณภาพดีซึ่งได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทยหรือเครื่องหมายรับรองคุณภาพมาตรฐานข้าวในระดับสากลจากจังหวัดสุรินทร์ นครราชสีมา อุบลราชธานี บุรีรัมย์ ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ เชียงราย นครพนม สกลนคร พะเยา พัทลุง และชลบุรี มาจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าข้าวในงาน THAIFEX – Anuga Asia 2024 ในคูหา Think Rice Think Thailand ของกรมการค้าต่างประเทศ (หมายเลข 3-G29 และ 3-G45) อิมแพ็คชาเลนเจอร์ Hall 3 และจัดให้มีการเจรจาธุรกิจกับผู้นําเข้าข้าวจากต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายเล็กเข้าถึงตลาดข้าวโลก อันจะเป็นการเพิ่มช่องทางตลาดให้ข้าวไทยขยายไปสู่ต่างประเทศได้เพิ่มขึ้น ตามนโยบายของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในการดูแลคนตัวเล็ก สร้างโอกาสและรายได้ ขยายช่องทางการตลาดให้ผู้ประกอบการท้องถิ่น

นอกจากนี้ ในแต่ละวันกรมฯ ได้จัดกิจกรรมสาธิตการทำอาหารไทยที่ทานคู่กับข้าวคุณภาพดีของไทย โดยเชฟระดับแถวหน้าของเมืองไทยจาก Master Chef Thailand เช่น เชฟเอื้อ เชฟตุ๊กตา เชฟอิน และเชฟลัท ภายใต้คอนเซ็ป Taste the Authentic Thai Cuisine with Premium Thai Rice” ให้ผู้เยี่ยมชมได้สัมผัสรสชาติของข้าวไทยที่มีความหลากหลายและเป็นเอกลักษณ์ซึ่งผสมผสานกับอาหารต่างๆ อย่างลงตัว และจัดให้มีนิทรรศการความรู้เกี่ยวกับข้าวไทยเพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ที่ดีและความโดดเด่นของข้าวไทย รวมทั้งการสาธิตการตรวจสอบมาตรฐานข้าวเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นในคุณภาพมาตรฐานของข้าวไทยให้แก่ผู้ซื้อผู้นำเข้าข้าวไทยตลอดการจัดงานฯ

สำหรับภาพรวมการส่งออกข้าวไทยปี 2567 กรมฯ และสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยได้คาดการณ์ปริมาณส่งออกข้าวไทยที่ 7.5 ล้านตัน โดยตั้งแต่เดือนมกราคม – เมษายน 2567 ไทยส่งออกแล้วปริมาณ 3.40 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ส่งออกปริมาณ 2.63 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 29.28 และมีมูลค่าการส่งออก 78,517 ล้านบาท หรือ 2,219 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 60.73 และ 53.78 ตามลำดับ เนื่องจากการส่งออกข้าวไทยได้รับปัจจัยบวกจากประเทศผู้นำเข้าข้าวสำคัญยังคงมีความต้องการนำเข้าข้าวเพิ่มขึ้นเพื่อตอบสนองต่อความต้องการข้าวในประเทศและรักษาความมั่นคงทางอาหารในช่วงที่สภาพอากาศทั่วโลกแปรปรวน ประกอบกับค่าเงินบาทอ่อนค่าลงอยู่ในช่วง 36 – 37 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ ทำให้ราคาข้าวไทยสามารถแข่งขันได้และจูงใจผู้ซื้อมากขึ้น จึงคาดการณ์ว่าในปี 2567 จะส่งออกข้าวได้เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 7.5 ล้านตัน โดยตลาดส่งออกข้าวที่สำคัญ ได้แก่ อินโดนีเซีย อิรัก สหรัฐอเมริกา ฟิลิปปินส์ และแอฟริกาใต้

อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า กรมฯ มีแผนกิจกรรมเดินหน้าผลักดันการส่งออกข้าวไทยอย่างต่อเนื่อง อาทิ การจัด Roadshow ประชาสัมพันธ์ข้าวไทยในตลาดจีน การจัดคณะผู้แทนการค้าภาครัฐและภาคเอกชนเดินทางไปพบปะหารือกับผู้นำเข้าข้าวฟิลิปปินส์ การจัดงานประชุมนานาชาติ Thai Rice Networking Forum เพื่อกระชับความสัมพันธ์กับเครือข่ายพันธมิตรคู่ค้าข้าวของไทย ตลอดจนใช้เวทีนี้ประกาศศักยภาพของไทยให้เป็นศูนย์กลาง (Hub) ของการค้าข้าวโลก อีกทั้งเป็นช่องทางที่จะเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการค้าข้าวรายใหม่โดยเฉพาะ SMEs ของไทยได้พบปะเจรจากับผู้นำเข้าข้าวจากประเทศคู่ค้าสำคัญของโลกโดยตรง รวมทั้งการจัดงานประชุมข้าวนานาชาติสัญจร (Thailand Rice Convention: TRC สัญจร) โดยการลงพื้นที่จัดสัมมนาให้ความรู้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวเพื่อให้ทราบถึงแนวโน้มความต้องการข้าวในตลาดโลก เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถผลิตข้าวได้ตรงกับความต้องการของตลาดมากยิ่งขึ้น ตลอดจนการเข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติอย่างงาน Fine Food (ออสเตรเลีย) งาน China – ASEAN Expo (จีน) และงาน SIAL (ฝรั่งเศส) เพื่อประชาสัมพันธ์และผลักดันการส่งออกข้าวไทยให้เพิ่มขึ้น