นายบุญมา ป๋งมา ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (สร.ขสมก.) เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (7 ต.ค.64) ตนพร้อมสมาชิกรวม 30 คน จะเข้าพบ นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เพื่อแสดงความยินดีในฐานะที่ดำรงตำแหน่ง ผอ.ขสมก. คนใหม่ ซึ่งเริ่มงานมาตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา รวมทั้งทราบนโยบายเข้ามาบริหาร ขสมก. พร้อมเสนอปัญหาขององค์การ พร้อมแนวทางแก้ไขรวม 8 ข้อ ดังนี้

1.เรื่องอัตรากำลัง เนื่องจากปี 64 มีพนักงานขับรถ พนักงานเก็บค่าโดยสาร พนักงานประจำสำนักงานเกษียณอายุประมาณ 500 คน และองค์การยังมิได้บรรจุแต่งตั้งพนักงานทดแทนตำแหน่งที่ขาด ทำให้เขตการเดินรถที่ 1-8 สำนักงานใหญ่ และฝ่ายรถเอกชนร่วมบริการ ขาดอัตรากำลังจำนวนมาก ดังนั้นจึงขอให้องค์การดำเนินการประกาศผลสอบ และบรรจุแต่งตั้งพนักงานที่ผ่านการสอบคัดเลือก เข้าดำรงตำแหน่งที่ขาดด้วย 

นายบุญมา กล่าวต่อว่า 2.การบริหารสัญญา เนื่องจากองค์การได้ทำสัญญากับบุคคลภายนอกเป็นจำนวนมาก เช่น สัญญาเช่าทรัพย์ สัญญาเช่าซื้อ จ้างทำของ และสัญญาร่วมเดินรถของรถเอกชนร่วมบริการ ซึ่งเดิมสัญญาต่าง ๆ เหล่านี้ สำนักกฎหมายจะเป็นผู้จัดทำ และส่งให้เขตการเดินรถ เป็นผู้กำกับดูแล หรือบริหารสัญญา ประเด็นปัญหาคือ เขตการเดินรถ และรถเอกชนร่วมบริการ ไม่มีนักกฎหมายหรือผู้ชำนาญการ ในการบริหารสัญญา ทำให้องค์การกับบุคคลภายนอกเกิดข้อพิพาท ในเรื่องสัญญาจำนวนมาก และทำให้องค์การได้รับความ 

3.สภาพรถโดยสาร เนื่องจากองค์การมีรถโดยสารที่ผ่านการใช้งานมาประมาณ 30 ปี ทำให้มีรถเสียในเส้นทางจำนวนมาก ส่งผลให้คุณภาพการให้บริการประชาชนได้รับผลกระทบ ดังนั้นจึงขอองค์การเร่งรัด แผนฟื้นฟูกิจการ หรือจัดทำแผนซ่อมบำรุงรถเก่า เพื่อให้มีรถโดยสารเพียงพอให้บริการ 4.สัญญาประกันภัยภาคสมัครใจ เนื่องจากสัญญาประกันภัยภาคสมัครใจจะหมดสัญญาปลายเดือน ม.ค.65 เพื่อไม่ให้องค์การและพนักงานขับรถได้รับความเสียหาย จึงขอให้เร่งรัดการจัดทำประกันภัยด้วย 

นายบุญมา กล่าวอีกว่า 5.เรื่องที่ทำการสหภาพแรงงานฯ เนื่องจาก นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล อดีต ผอ.ขสมก. ได้อนุมัติให้สหภาพแรงงานใช้พื้นที่โรงเรือนด้านหลังที่ทำการเขตการเดินรถที่ 6 เป็นที่ทำการสหภาพฯ ตั้งแต่ปี 63 และใช้งบประมาณเขต 2 ในการปรับปรุง แต่ถึงปัจจุบันดำเนินการ จึงขอให้เร่งรัดเขตการเดินรถที่ 2 ดำเนินการต่อไปด้วย 6.การเจรจาข้อเรียกร้อง ตามที่สหภาพแรงงานได้ยื่นข้อเรียกร้องตามกฎหมาย ตั้งแต่ปี 61 และได้เจรจาเพียงครั้งเดียว และไม่มีการเรียกเจรจาอีก ทำให้สภาพการจ้างไม่สอดคล้องกับข้อกฎหมาย สหภาพแรงงานฯ ได้ติดตามมาโดยตลอด ประกอบกับผู้บริหารองค์การ ซึ่งเป็นกรรมการเจรจาข้อเรียกร้องได้เกษียณอายุราชการ จึงให้แต่งตั้งผู้แทนฝ่ายบริหารตามกฎหมาย เพื่อเจรจาข้อเรียกร้องต่อไป 

7.การจัดซื้อ หรือเช่าซื้ออู่ท่าอิฐ ตามที่สหภาพแรงงานฯ ได้นำเสนอให้จัดซื้อหรือเช่าซื้ออู่ท่าอิฐ เขตการเดินรถที่ 7 เพื่อให้เป็นทรัพย์สินขององค์การ และอู่จอดรถ ซึ่งทางองค์การได้แต่งตั้งคณะกรรมการ แต่ปรากฏว่ายังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด จึงขอให้เร่งรัดรีบดำเนินการต่อไปด้วย และ 8.ปัญหาภายในเขตการเดินรถ เรื่องเขตการเดินรถที่ 1 อู่รังสิต ที่จอดรถเป็นหลุมเป็นบ่อ อู่ธรรมศาสตร์ ที่พักพนักงานไม่เพียงพอขอให้ดำเนินการด้วย ทั้งนี้หวังว่า ผอ.ขสมก. จะรับพิจารณา เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของพนักงาน เกิดการพัฒนาองค์การให้มีประสิทธิภาพ มีความมั่นคง และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนที่ใช้บริการ