นายอรุณ โปธิตา ตัวแทนภาคีเครือข่ายชาวไร่ยาสูบจากจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยหลังเข้าพบนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์  รมช.คลัง เพื่อให้ช่วยเร่งปราบปรามบุหรี่เถื่อน แก้ทุจริต เพิ่มโทษทางกฎหมาย พร้อมติดตามเงินปัจจัยการผลิตของเกษตรกรจากงบกลางที่ยังเงียบ ว่า สมาคมการค้ายาสูบไทย ภาคีเครือข่ายชาวไร่ยาสูบแห่งประเทศไทย และสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจยาสูบ การยาสูบแห่งประเทศไทย ได้ยื่นข้อเรียกร้อง 4 ประการ ซึ่งเป็นผลจากการประชุมเชิงปฏิบัติการต่อต้านบุหรี่ผิดกฎหมาย ขอให้กระทรวงการคลังพิจารณากำหนดแนวทางการยกระดับและเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาการค้าบุหรี่ผิดกฎหมายให้เป็นวาระแห่งชาติ ดังนี้

1.ยกระดับมาตรการสกัดกั้นและป้องกันการลักลอบบุหรี่ผิดกฎหมายตามเขตชายแดนทั้งบกและทะเล ขยายความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมจัดสรรงบประมาณและอุปกรณ์แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเพียงพอและมีคุณภาพ 2.ยกระดับการปราบปรามขบวนการค้าบุหรี่ผิดกฎหมาย มุ่งเป้าไปที่เครือข่ายรายใหญ่และผู้มีอิทธิพลเบื้องหลัง ขยายผลไปยังแหล่งพักสินค้า เส้นทางขนส่งตลอดจนเส้นทางการเงินของเครือข่ายผู้กระทำผิด รวมถึงสินค้าผ่านแดน 3.ยกระดับปราบปรามและบังคับใช้กฎหมายกับหน้าร้านบุหรี่เถื่อน โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ และกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงร้านค้าออนไลน์ที่มีการโฆษณาสรรพคุณดึงดูดผู้ซื้ออย่างโจ่งแจ้ง จัดส่งผ่านระบบไปรษณีย์ ทำให้บุหรี่เถื่อนกระจายไปในวงกว้างด้วยความรวดเร็ว และ 4.เร่งรัดให้กรมสรรพสามิตทบทวนและเสนอแก้ไขอัตราภาษีสรรพสามิตยาสูบให้เหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ชะลอตัวลงเรื่อย ๆ เพื่อป้องกันการหันไปหาสินค้าทดแทนที่มีราคาถูก และไม่ช่วยลดจำนวนผู้สูบบุหรี่ตามเป้าหมายทางสาธารณสุข

“บุหรี่เถื่อนเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้ชาวไร่ยาสูบต้องดิ้นรนกับความทุกข์ยากในการประกอบอาชีพทุกวันนี้ เนื่องจากไม่มีหลักประกันใด ๆ ว่าการยาสูบแห่งประเทศไทยที่เป็นผู้รับซื้อหลักจะมีความต้องการใบยาต่อไปในอนาคต ด้วยธุรกิจหลักในการผลิตบุหรี่หดหายไปมากจากพิษบุหรี่เถื่อน นอกจากนี้ ภาคีเครือข่ายชาวไร่ยาสูบยังขอให้กระทรวงการคลังช่วยติดตามเงินช่วยเหลือปัจจัยการผลิตฤดูกาลปลูก 66/67 ที่ขอจากงบกลาง ซึ่งผ่านการอนุมัติจากการยาสูบฯ แล้ว แต่ยังไม่ทราบว่าหน่วยงานใดรับผิดชอบ และยังไม่มีมติจาก ครม. ตอนนี้ใกล้หมดฤดูกาลปลูกแล้ว จึงอยากทราบกรอบเวลาที่แน่ชัดจากรัฐบาลในการช่วยเหลือเกษตรกร”

อย่างไรก็ตาม นายจุลพันธ์ ที่ลงมารับหนังสือและรับฟังปัญหาจากตัวแทนอุตสาหกรรมยาสูบด้วยตนเอง รับปากว่าจะช่วยติดตามเงินสนับสนุนปัจจัยการผลิตของชาวไร่ยาสูบให้ นอกจากนี้จะนำเรื่องปัญหาบุหรี่เถื่อนและประเด็นที่เกี่ยวข้องเข้าเป็นส่วนหนึ่งของการมอบนโยบายแก่หน่วยงานภายใต้การรับผิดชอบของตนเอง

ขณะที่ นายสุเทพ ทิมศิลป์ รักษาการประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจยาสูบ กล่าวว่า  หากดูผลประกอบการของการยาสูบฯ จะพบว่ากำไรลดลงจากระดับหลายพันล้าน เหลือแค่ 200 กว่าล้านในปีที่ผ่านมาหรือลดลงกว่าร้อยละ 90 เมื่อเทียบกับช่วงก่อนปรับโครงสร้างภาษีเป็น 2 อัตรา นั่นหมายความว่าเราส่งเงินเข้ารัฐน้อยลงด้วย จึงอยากขอให้กระทรวงการคลังดูแลทบทวนนโยบายโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่ เพื่อให้ราคาบุหรี่ถูกกฎหมายไม่สวนทางกับกำลังซื้อของผู้บริโภคเช่นปัจจุบัน เป็นสาเหตุให้เกิดช่องว่างจนบุหรี่เถื่อนเข้ามาตีตลาด การดูแลนโยบายภาษีให้มีความเป็นธรรม สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ จะเป็นรากฐานสำคัญในการแก้ปัญหาบุหรี่เถื่อนอย่างยั่งยืน