เมื่อวันที่ 30 พ.ค. จากกรณีที่มีคลิปชายหัวโล้นอมนกเขาว่อนโซเชียล จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง เพราะบุคคลในภาพดังกล่าว มีหน้าตาคล้ายกับพระชื่อดัง ระดับพระครู หรือพระมหา และยังเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าในพื้นที่ อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งล่าสุดที่วัดป่า ก็ไม่พบตัวพระมหาที่หน้าคล้ายชายในคลิป

จากการสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับนายมะลิ โคตรศรี ผู้ใหญ่บ้านโคกกลาง หมู่ที่ 6 ต.จุมจัง อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ โดยนายมะลิ บอกว่า กรณีโลกโซเชียลมีการแชร์คลิปภาพวิดีโอ มีภาพพระหน้าตาคล้ายกับพระมหา ที่เป็นเจ้าอาวาสวัดป่าในพื้นที่นั้น เบื้องต้นตนได้เห็นคลิปดังกล่าวแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ปักใจเชื่อทั้งหมด เพราะไม่เห็นกับตา อีกทั้งปกติแล้ว ตนกับพระมหารู้จักกันมานาน ซึ่งพระมหารูปดังกล่าวได้บวชเณรจำพรรษาอยู่ที่วัดตั้งแต่อายุ 11 ขวบ และเมื่ออายุครบก็ได้บวชเป็นพระอยู่ในพื้นที่ จนได้เป็นพระมหา หรือพระครูดังกล่าว

นายมะลิ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ พระมหายังช่วยให้ความรู้กับชาวบ้านเกี่ยวกับเรื่องโครงการทำเกษตรพอเพียง อยู่แบบพึ่งตนเอง ให้ความรู้แนะนำวิธีการทำการเกษตรแบบทฤษฎีใหม่ สำหรับญาติโยมที่ให้ความสนใจ และยังนำพาความยั่งยืนมาสู่ชุมชน จนเป็นที่เคารพและศรัทธาของญาติโยมในพื้นที่อำเภอกุฉินารายณ์ และทั้งในจังหวัดกาฬสินธุ์ เพราะพระมหาได้เดินทางไปเป็นวิทยากรให้ความรู้ และแนวทางการทำเกษตรพอเพียงเกษตรทฤษฎีใหม่ และที่ผ่านมา ไม่เคยมีพฤติกรรมที่ผิดปกติว่ามีการกระทำที่ไม่เหมาะสมหรือทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อมเสีย

นายมะลิ กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องนี้ ตนยังไม่ขอออกความเห็น เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ยอมรับว่าพอเห็นคลิปและทราบข่าวก็ตกใจ และแทบไม่น่าเชื่อว่าจะมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ซึ่งต้องรอฟังคำชี้แจงจากทางพระมหาด้วย ทั้งนี้ ในส่วนของตัวพระมหาที่ไม่เห็นอยู่ในวัดนั้น ไม่ใช่หายตัวในช่วงที่มีข่าว ซึ่งก่อนหน้านี้พระมหาได้มีการเปิดเผยกับตนไว้ว่า จะมีการออกนอกพื้นที่ไปปลีกวิเวก และยังไม่บอกว่าจะไปพักอยู่ที่ไหน ซึ่งพระมหาได้ออกจากพื้นที่ไปได้ประมาณกว่า 20 วันแล้ว จึงมีคลิปหลุดออกมาว่อนโซเชียล แต่เรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ส่วนเรื่องของความศรัทธาขึ้นอยู่กับของตัวบุคคลคงห้ามกันไม่ได้

อย่างไรก็ตามล่าสุดมีรายงานว่า ทางสำนักพระพุทธศาสนา จ.กาฬสินธุ์ และทางเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งวันนี้ช่วงเที่ยง นายสยามพัชร์ ทิพสอน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.กาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ จะนำเรื่องดังกล่าวเข้ารายงานกับพระเมธีวัชราจารย์ เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ เจ้าอาวาสวัดกลาง พระอารามหลวง ซึ่งเป็นพระสังฆาธิการ เพื่อหารือเรื่องที่เกิดขึ้น เพื่อพิจารณาแนวทางดำเนินการต่อไป