นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังหารือกับทูตพาณิชย์ 52 คน จาก 35 ประเทศและ 2 เขตเศรษฐกิจบริหารพิเศษ ที่เดินทางนำทัพนักธุรกิจรายใหญ่จากทั่วโลกมาร่วมเจรจาการค้าในงาน  THAIFEX-ANUGA ASIA 2024 งานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มอันดับ 1 ของเอเชีย ที่กระทรวงพาณิชย์ร่วมจัดขึ้น โดยมีนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมด้วย ช่วงค่ำวานนี้ (28 พ.ค. 67) โดยหารือถึงข้อมูลเชิงลึกในแต่ละตลาดทั่วโลก อาทิ ยุโรป สหรัฐ แอฟริกา เอเชีย จีน รัสเซีย และอินเดีย เป็นต้น ที่มีหลายตลาดกำลังประสบปัญหาทั้งภาวะเศรษฐกิจ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง มาตรการกีดกันทางการค้า กฎระเบียบการค้าใหม่ ในการหาโอกาสทางการค้าให้กับ SME ไทย พร้อมเป็นแนวทางในการดำเนินนโยบายการค้าผลักดันการเจรจา FTA กับคู่ค้าสำคัญเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นโอกาสดีที่เราได้เจอกัน ครั้งที่แล้วตนได้พูดคุยกับผู้ช่วยทูตพาณิชย์ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์มีกลไกสำคัญ 2 ส่วน คือ 1.ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ประเทศต่างๆ และ 2.พาณิชย์จังหวัดที่มีอยู่ทั่วประเทศ ตนอยากให้นำผลงานในกระทรวงฯ มาส่งเสริมสินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้น เชื่อมโยงการทำงานร่วมกันหาว่าต่างประเทศมีความต้องการอะไรและจังหวัดไหนมีสินค้า ที่เป็นที่ต้องการของตลาด ใช้ตลาดนำนวัตกรรมเสริมเพิ่มรายได้ เพราะสินค้าไทยเป็นสินค้าที่มีสตอรี่ และไทยมีซอฟต์พาวเวอร์หลายด้าน อยากให้ใช้ศักยภาพของทุกส่วนในกระทรวงทำงานร่วมกัน และใช้วิกฤติที่เกิดขึ้นในแต่ละตลาดมาทำให้เกิดเป็นโอกาส จะทำให้การทำงานประสบความสำเร็จ นอกจากนี้หลายตลาดในต่างประเทศ ยังให้ความสนใจซีรีส์วาย แอนิเมชั่น เกมของไทย

ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์มีรัฐมนตรี 3 คน จาก 3 พรรคการเมือง แต่ขอยืนยันกับพวกท่านว่าเราหัวใจเดียวกัน คือหัวใจกระทรวงพาณิชย์ จะช่วยกันทำให้กระทรวงพาณิชย์ดีที่สุด ไม่ต้องกังวลว่านโยบายจะไปคนละทิศคนละทาง พวกท่านเป็นระดับปฏิบัติที่เอานโยบายไปปฏิบัติให้ประสบความสำเร็จขอให้ทำให้เต็มที่

นายภูมิธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า อยากเห็นข้าราชการในกระทรวงฯ มีความเชี่ยวชาญในงาน และมีความรอบรู้ เพื่อหาโอกาสทางการค้าที่เพิ่มมากขึ้น ตนพร้อมให้โอกาสคนหนุ่มสาวในกระทรวงแสดงศักยภาพ และอยากให้รัก หวงแหน และรู้สึกเป็นเจ้าของกระทรวงฯ ที่เป็นบ้านหลังที่สอง อยู่ได้อย่างอบอุ่น ร่วมมือกันอย่างสร้างสรรค์ พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส

ด้านนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ตนได้เดินทางไปในหลายประเทศ ข้าราชการของกระทรวงพาณิชย์มีศักยภาพมีความพร้อมและทำงานเชิงรุก ด้านฝ่ายการเมืองแม้จะต่างพรรคแต่การทำงานเป็นเนื้อเดียวกัน ตนพร้อมรับฟัง เพราะทุกท่านเป็นข้าราชการที่มีคุณภาพ โดยตนพยายามผลักดันให้กระทรวงฯ ทำการตลาดให้สินค้าของประเทศไทยมีจุดแข็งที่อาหารไทยและผลไม้เมืองร้อนที่เป็นที่หนึ่งของโลก ทั้งนี้ในการทำงานหากประสบปัญหาขอให้พวกท่านเสนอขึ้นมาช่วยกันแก้ปัญหา ตนจะพยายามแก้ไขปัญหาให้ดีที่สุด