สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงพอร์ตมอร์สบี ประเทศปาปัวนิวกินี เมื่อวันที่ 28 พ.ค. ว่า ทางการจังหวัดเอ็งกา ทางตอนเหนือของปาปัวนิวกินี รายงานการอพยพประชาชนประมาณ 7,900 คน ออกจากบริเวณที่อยู่ใกล้เคียงกับหมู่บ้านที่เชิงเขามังกาโล ซึ่งเกิดเหตุดินถล่มครั้งใหญ่ และสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องจากยังคงมีความเสี่ยงของการเกิดดินถล่มครั้งใหม่


ทั้งนี้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของปาปัวนิวกินี ยื่นหนังสือต่อสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ว่าเหตุการณ์ดินถล่มครั้งนี้ อาจฝังประชาชน “มากกว่า 2,000 คน” และความเสียหายอย่างหนักหน่วงที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบอย่างหนัก ต่อเศรษฐกิจ และการดำเนินชีวิตของประชาชน


ขณะที่สถานการณ์ในภาพรวมยังคงวิกฤติ เนื่องจากดินในบริเวณนั้นยังมีการเคลื่อนตัว ซึ่งกลายเป็นอุปสรรคให้กับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่กู้ภัย ในการค้นหาผู้สูญหาย ภารกิจในเวลานี้ ต้องการความสนับสนุนจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นทหาร และเจ้าหน้าที่กู้ภัยพลเรือน ทั้งระดับประเทศและระดับท้องถิ่น


ด้านองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ออกแถลงการณ์ แสดงความวิตกกังวลต่อสถานการณ์ในปาปัวนิวกินี และแสดงความพร้อมมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ส่วนกระทรวงการต่างประเทศจีนเผยแพร่แถลงการณ์ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แสดงความเสียใจต่อภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ปาปัวนิวกินี และยืนยันพร้อมมอบความช่วยเหลือที่จำเป็น

อนึ่ง ปาปัวนิวกินีเป็นหนึ่งในประเทศซึ่งมีสภาพอากาศเปียกชื้นตลอดทั้งปี เผชิญกับแผ่นดินไหว น้ำท่วม และดินถล่มแล้วหลายครั้ง นับตั้งแต่ต้นปีนี้ หนึ่งในนั้นคือ เหตุดินถล่มใกล้กับจังหวัดเอ็งกา เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 23 ราย.

เครดิตภาพ : AFP