เมื่อวันที่ 27 พ.ค. นายเอ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย หอบหลักฐานแชตสนทนาและรูปภาพ เข้าขอความช่วยเหลือกับ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” กรณีถูกข้าราชการระดับสูงกระทรวงแห่งหนึ่งแอบคบชู้ภรรยาที่คบหามานาน 12 ปี หลังร่วมกลุ่มสวิงกิ้งจนความสัมพันธ์เกินเลย

นายเอ เล่าว่า ตนกับภรรยาแต่งงานจดทะเบียนกันมา 12 ปี โดยในตอนที่เริ่มคบกัน ด้วยความรู้สึกคึกคะนอง ไม่ได้มองเรื่องการสวิงกิ้งเป็นเรื่องผิด แต่เป็นเรื่องของรสนิยมทางเพศ โดยมีกฎกติกาอยู่ภายในกลุ่มว่า หากมีอะไรกันจะต้องไม่สานสัมพันธ์กันต่อในเชิงชู้สาว กระทั่งข้าราชการระดับสูงรายนี้เข้ามาร่วมกลุ่ม โดยข้าราชการคนที่เข้ามาในกลุ่มเมื่อช่วงเดือน ก.พ. 67 ต้องเข้ามาตามกฎคนที่เข้ามาใหม่ต้องซัพพอร์ตในเรื่องกิจกรรมการไปเที่ยว พักผ่อน ที่พัก อาหารการกิน จากนั้นข้าราชการรายนี้ได้นำปัญหาในครอบครัวมาปรึกษากับภรรยาของตน ทำหน้าที่เป็นศิราณีคอยให้คำปรึกษา

นายเอ เล่าต่อว่า จากนั้นภรรยาตนมีการติดต่อพูดคุยกับข้าราชการรายนี้มากขึ้น มากกว่าคุยกับตนเสียอีก รวมทั้งมีการซื้อโทรศัพท์ราคา 50,000 บาท ซื้อรถยุโรปราคาหลายล้านให้อีก 1 คัน โดยตนได้เห็นข้อความการสนทนาของทั้งสองคนมีการเรียกตัวเองว่า ผัวจ๋า เมียจ๋า บอกรัก คิดถึง และชักชวนกันไปมีเพศสัมพันธ์ ทำให้ตนและภรรยายิ่งเกิดรอยร้าวขึ้นในครอบครัว โดยภรรยายืนยันว่า ยอมรับเพราะอยากมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

นายเอ กล่าวว่า ตนได้มีโอกาสคุยกับข้าราชการรายนี้ จากเคยเชื่อใจเขาในระดับหนึ่ง นับถือว่าเป็นพี่ชาย แต่ไม่คิดว่า จะมาทำผิดกฎที่ห้ามสานสัมพันธ์กันต่อ เอาของมาล่อภรรยาตนทั้งโทรศัพท์และรถยนต์โดยตนขอร้องว่า สิ่งที่เขาทำมันเกินเลยไปแล้ว มันกำลังจะทำให้ครอบครัวตนเดือดร้อน เขากลับบอกว่า อยากให้ภรรยาตนมีความปลอดภัยในชีวิตถึงซื้อรถยนต์ยุโรปให้ และเขาก็จะยืมเอาไปตีกอล์ฟบ้าง เพื่อเป็นหน้าตาทางสังคม แต่ตนเห็นว่ามันไม่ใช่ ปัจจุบันความสัมพันธ์ในครอบครัวก็ห่างเหิน ตนไม่สามารถนอนอยู่ที่บ้านได้ ภรรยาเป็นคนที่อยู่บ้านและดูกิจการในครอบครัว

“สุดท้ายผมต้องการให้ข้าราชการคนนี้มารับผิดชอบ ที่ครอบครัวเราต้องแตกแยกกระจัดกระจายแบบนี้ เข้ามาปั่นสมองลูกสาวผมที่ยังเด็ก ทำให้ตอนนี้ลูกเหมือนกลายเป็นคนอื่นไปเลย ผมยังมีความหวังว่าจะกลับมาคืนดีกัน เพราะคิดว่าสามีภรรยาย่อมทะเลาะกันได้ หากย้อนกลับไปได้ก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้น ยืนยันว่า 10 กว่าปีที่ผ่านมา เราใช้ชีวิตแบบนี้ได้ตามปกติ แต่พอมีคนที่ไม่เคารพกติกาเข้ามามันก็ทำลายทั้งหมด สำหรับกลุ่มสวิงกิ้งมีจำนวนหลายกลุ่มทั้งกลุ่มใหญ่ กลุ่มเล็ก กลุ่มฮาร์ดคอร์ กลุ่มหาเงิน มีประมาณ 100-400 คนต่อกลุ่ม โดยกลุ่มผมมีสมาชิก 30 กว่าคน มีทั้งข้าราชการสีกากี สีเขียว สีเทา นักการเมือง นักธุรกิจทุกระดับชั้นมีหมด แต่ตอนนี้ทุกคนต่างออกจากกลุ่มไลน์กันหมดเพื่อเซฟตัวเอง โดยกลุ่มผมไม่มีการเรียกเก็บเงิน เป็นความสมัครใจของคนที่มีรสนิยมทางเพศรูปแบบเดียวกัน” นายเอ กล่าว

ด้าน กัน จอมพลัง กล่าวว่า ตนจะเดินทางไปยังที่กระทรวงต้นสังกัดของข้าราชการระดับสูงรายนี้ เพื่อร้องเรียนพฤติกรรมว่าเข้าข่ายผิดจริยธรรมข้าราชการและวินัยองค์กร ว่าเหมาะสมหรือไม่ การกระทำเข้าข่ายเป็นการประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงหรือไม่ ขอให้ทางกระทรวงต้นสังกัดตรวจสอบ นอกจากนี้ตนได้เตรียมทนายความไว้สำหรับการฟ้องร้องเรื่องชู้ โดยรับดูแลเรื่องคดีความให้แก่ผู้เสียหายต่อไป.