นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการโพสต์ข้อความผ่านสื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่เหตุการณ์ขณะทำการบิน พบเห็นบั้งไฟพุ่งลอยอยู่บนระดับความสูงกว่า 8,000 ฟุต หรือประมาณ 2.4 กิโลเมตร (กม.) ซึ่งเฉียดเครื่องบินนั้น กระทรวงคมนาคม เตรียมจัดทำหนังสือส่งถึงกระทรวงมหาดไทย (มท.) เพื่อประสานไปยังหน่วยงานด้านการปกครองในท้องที่ และระดับจังหวัดที่มีการจัดประเพณีบุญบั้งไฟ เพื่อขอให้ควบคุม และมีมาตรการการจุดบั้งไฟ เพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อความความปลอดภัยการเดินอากาศ อีกทั้งบั้งไฟไม่สามารถควบคุมทิศทางและความสูงได้ จึงทำให้เกิดความเสี่ยงต่อความเสียหายต่ออากาศยาน ชีวิต ทรัพย์สินของผู้โดยสาร และประชาชน รวมถึงส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การขนส่งทางอากาศ และการท่องเที่ยวของประเทศไทย

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้จะเร่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาออกกฎหมายข้อบังคับในการปล่อยบั้งไฟให้อยู่ในสภาพที่ควบคุมได้ และไม่เป็นอันตรายต่อการบิน แต่ยืนยันว่า การออกกฎหมายข้อบังคับในการปล่อยบั้งไฟ จะคำนึงถึงความเหมาะสม เพื่อให้ประเพณีประจำถิ่นที่สำคัญของไทยดำเนินต่อไป เนื่องด้วยเป็นโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ แต่การปล่อยบั้งไฟจะต้องไม่เกิดผลกระทบต่อความปลอดภัยของการขนส่งทางอากาศด้วยเช่นกัน

นายสุริยะ กล่าวอีกว่า จากการรายงานของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ที่ได้รวบรวมรายงานเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยกรณีนักบินพบบั้งไฟ และโคมลอย ตั้งแต่ปี 64-66 พบว่ามี 155 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ดังนั้นจึงต้องมีการควบคุมพื้นที่ และเวลาในการปล่อยบั้งไฟ เพื่อแจ้งให้นักบินหลีกเลี่ยงเส้นทาง และช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งผู้ที่ต้องการปล่อยบั้งไฟต้องขออนุญาตอย่างถูกต้อง โดยขอแบบฟอร์มใบอนุญาตขอปล่อยบั้งไฟจากพนักงานเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นประจำตำบล อำเภอ หรือ จังหวัด โดยข้อกำหนดในการขออนุญาตต้องเป็นไปตามประกาศของแต่ละจังหวัด พร้อมกับแจ้งวัน เวลา ตำแหน่งการปล่อย ขนาด และจำนวนของบั้งไฟ

สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม

ทั้งนี้ เมื่อผู้ขอได้รับการอนุญาตแล้ว ให้นำใบอนุญาตที่ได้รับไปแจ้งท่าอากาศยานที่ใกล้เคียง ก่อนทำการปล่อยบั้งไฟ โดยเขตพื้นที่การแจ้งขอ มีดังนี้ 1.จังหวัดเลย แจ้งที่ท่าอากาศยานเลย 2.จังหวัดอุดรธานี หนองบัวลำภู หนองคาย แจ้งที่ท่าอากาศยานสกลนคร 3.จังหวัดสกลนคร มุกดาหาร แจ้งที่ท่าอากาศยานสกลนคร 4.จังหวัดนครพนม บึงกาฬ แจ้งที่ท่าอากาศยานนครพนม 5.จังหวัดขอนแก่น มหาสารคาม แจ้งที่ท่าอากาศยานขอนแก่น 6.จังหวัดร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ แจ้งที่ ท่าอากาศยานร้อยเอ็ด 7.จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ ยโสธร อำนาจเจริญ แจ้งที่ท่าอากาศยานอุบลราชธานี 8.จังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ แจ้งที่ท่าอากาศยานนครราชสีมา และ 9.จังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ แจ้งที่ท่าอากาศยานบุรีรัมย์.