สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงไทเป สาธารณรัฐจีน เมื่อวันที่ 5 ต.ค.ว่ากระทรวงกลาโหมของไต้หวันออกแถลงการณ์ ว่าอากาศยานทางทหารของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ( พีแอลเอ ) จำนวน 52 ลำ รวมถึงเครื่องบินขับไล่แบบเจ-16 จำนวน 34 ลำ และเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์แบบเอช-6 จำนวน 12 ลำ เข้าสู่เขตพิสูจน์ฝ่ายป้องกันภัยทางอากาศ ( เอดีไอแซด ) บริเวณหมู่เกาะปราตัส ทางตอนใต้สุดของไต้หวัน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
ขณะที่กองทัพไต้หวันตอบสนองต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ด้วยการส่งเครื่องบินขับไล่ขึ้นประกบเพื่อกดดัน และการจับตาความเคลื่อนไหวของฝูงเครื่องบินรบจีนผ่านระบบป้องกันอากาศยาน อย่างไรก็ตาม ในคืนวันเดียวกันยังมีเครื่องบินขับไล่แบบเจ-16 ของพีแอลเอ เดินทางผ่านน่านฟ้าของไต้หวันอีก 4 ลำ ทำให้ภายในวันเดียวกันนี้ มีอากาศยานทางทหารของจีนละเมิดน่านฟ้าอธิปไตยของรัฐบาลไปมากถึง 56 ลำ เป็นสถิติใหม่
อย่างไรก็ตาม หากนับจำนวนเครื่องบินของพีแอลเอ ที่เข้าสู่น่านฟ้าของไต้หวัน ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันชาติจีน ปรากฏว่ามีมากกว่า 150 ลำแล้ว 
ทั้งนี้ รัฐบาลไต้หวันเริ่มรวบรวมสถิติการรุกล้ำน่านฟ้าของเครื่องบินรบจีน ตั้งแต่เดือน ก.ย.ปีที่แล้ว และจนถึงปัจจุบัน อากาศยานทางทหารของพีแอลเอเดินทางผ่านน่านฟ้าของไต้หวันแล้วอย่างน้อย 814 ลำ

ด้านกระทรวงการต่างประเทศในกรุงไทเป ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้จีนยุติการกระทำดังกล่าว ขณะที่กระทรวงกลาโหมและกระทรวงการต่างประเทศในกรุงวอชิงตันออกมาร่วมประณาม แต่กระทรวงการต่างประเทศในกรุงปักกิ่งออกแถลงการณ์ ตอกกลับสหรัฐ ว่าเป็นผู้สุมไฟความขัดแย้งในช่องแคบไต้หวัน.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES