“เดลินิวส์ออนไลน์” ขอพาทุกคนย้อนไทม์ไลน์เส้นทางคดี “บุ้ง ทะลุวัง” 110 วันในเรือนจำ แท้จริงแล้วคือใคร และเกิดอะไรขึ้นถึงถูกจับขังในคุกนานกว่า 3 เดือน ก่อนสิ้นใจที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 67 สำหรับ “เนติพร เสน่ห์สังคม” หรือที่หลายคนรู้จักดีในนาม บุ้ง ทะลุวัง วัย 29 ปี เป็นนักกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมือง

26 มกราคม 2567
ศาลอาญากรุงเทพใต้ สั่งเพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราว กรณีชุมนุมที่กระทรวงวัฒนธรรม พ่นสีธงสัญลักษณ์เบื้องสูง และมีคดีละเมิดอำนาจศาล กระทบกระทั่งกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยศาลสั่งลงโทษจำคุก 1 เดือน ซึ่งบุ้งแจ้งว่าจะไม่ยื่นประกันตัวใหม่หรือขออุทธรณ์ นำตัวส่งไปยังทัณฑสถานหญิงกลาง

27 มกราคม 2567
ประกาศอดอาหารและน้ำดื่ม โดยเรียกร้อง 2 ข้อ คือ ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม และต้องไม่มีใครติดคุกเพราะความเห็นต่างทางการเมือง

4 กุมภาพันธ์ 2567
ประกาศทำพินัยกรรมยกทรัพย์สิน เงินสด, บัญชีเงินฝาก, นาฬิกาข้อมือ, ต่างหู และแมว ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของน้องหยก (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) ผู้ต้องหาคดี 112 ทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว

6 กุมภาพันธ์ 2567
ถูกนำตัวส่งทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เนื่องจากมีภาวะ ตับอักเสบ, กระเพาะปัสสาวะอักเสบ, อ่อนแรงมาก จนไม่สามารถลุกเดินได้

8 กุมภาพันธ์ 2567
อาการทรุดหนักถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จังหวัดปทุมธานี

18 มีนาคม 2567
เขียนจดหมายถึง ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า เอาเสียงของประชาชนไปแลกเพื่อกลับบ้าน เป็นได้แค่นักการเมืองน้ำเลว พร้อมตำหนิที่ไม่ยอมทวงความยุติธรรมให้กับคนเสื้อแดง นอกจากนี้ยังกล่าวถึง แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาว ไม่จำเป็นต้องทำตามที่พ่อสั่งทุกอย่าง แต่พ่อเป็นยังไงลูกก็เป็นอย่างนั้น

30 มีนาคม 2567
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานอาการของบุ้ง ความดันโลหิตต่ำ, ค่าโพแทสเซียมในเลือดต่ำ, ไม่ขับถ่ายอุจจาระเป็นระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันน้ำหนักตัวประมาณ 63 กก. ลดลงจากแต่ก่อนกว่า 20 กิโลกรัม

4 เมษายน 2567
ถูกย้ายกลับไปควบคุมตัวอยู่ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ พร้อมด้วย ตะวัน, แฟรงค์

14 พฤษภาคม 2567
มีการรายงานว่าหัวใจหยุดเต้น ซึ่งทางโรงพยาบาลราชทัณฑ์อยู่ระหว่างปั๊มหัวใจช่วยเหลือ ก่อนจะเสียชีวิตในเวลา 11.22 น. ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ