นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 16 พ.ค. นี้ เวลา 06.00 น. ตนจะลงพื้นที่ที่เกาะพหลโยธิน บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ตรวจความเรียบร้อยการจัดรถโดยสาร (รถเมล์) ประจำทาง เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนในการเดินทางช่วงเปิดเทอมวันแรก หลังจากที่ก่อนหน้านี้มอบนโยบายให้เขตการเดินรถทั้ง 8 เขต เตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกประชาชน รองรับการเดินทางในช่วงเปิดเทอม คาดว่าจะมีผู้ปกครองมาส่งบุตรหลาน และนักเรียนเดินทางด้วยรถเมล์ของ ขสมก. ไปโรงเรียนในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวนมาก
โดยจัดเตรียมรถเมล์กว่า 2,400 คัน 17,500 เที่ยววิ่งต่อวัน รองรับผู้โดยสารราว 650,000-700,000 คนต่อวัน จากปัจจุบันช่วงปิดเทอมมีผู้ใช้บริการอยู่ที่ 630,000 คนต่อวัน คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 50,000-70,000 คนต่อวัน รวมทั้งบริหารจัดการความถี่ให้สอดคล้องกับผู้โดยสารมากที่สุด โดยเฉพาะช่วงเร่งด่วนที่จะมีผู้โดยสารใช้บริการจำนวนมาก ช่วงเร่งด่วนเช้า เวลา 05.00-08.00 น. มีความถี่ปล่อยรถ 7-12 นาทีต่อคัน และเร่งด่วนเย็น เวลา 15.00-17.00 น. ความถี่ปล่อยรถ 10-15 นาทีต่อคัน หรือถ้าผู้โดยสารใช้บริการมากอาจจะปรับถวามถี่ในการปล่อยรถให้เร็วขึ้นได้ เพื่อไม่ให้ผู้โดยสารต้องรอรถเมล์นาน
นายกิตติกานต์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจพิเศษลงพื้นที่ประจำจุดสำคัญทั่วกรุงเทพฯ เพื่ออำนวยความสะดวกและปลอดภัยประชาชนในพื้นที่ที่มีการใช้หนาแน่น โดยเฉพาะเส้นทางที่มีโรงเรียนจำนวนมาก และเป็นจุดเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะที่สำคัญกว่า 20 จุด เช่น รถไฟฟ้า รถตู้ รถเมล์ และ เรือโดยสาร ไม่ว่าจะเป็น โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย โรงเรียนศึกษานารี โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี โรงเรียนวัดธาตุทอง เดอะมอลล์บางกะปิ แยก คปอ. อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สวนจตุจักร ตลาดมีนบุรี แยกบางนา ตลาดคลองเตย เดอะมอลล์บางแค วงเวียนใหญ่ และวัดไร่ขิง เป็นต้น
ทั้งนี้ ปัจจุบันเข้าสู่ช่วงฤดูฝน ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย เพราะด้วยสภาพถนนที่เปียกแฉะ จนเกิดความลื่น จึงกำชับให้พนักงานขับรถตรวจสอบสภาพรถให้มีอุปกรณ์ส่วนควบที่มีความมั่นคงแข็งแรง และพร้อมใช้งาน เช่น ที่ปัดน้ำฝน ระบบเบรก ยาง และ หลังคา เพื่อป้องกันการรั่วซึม และไม่ให้น้ำไหลเข้ามาสู่ภายในห้องโดยสาร รวมทั้งพนักงานขับรถต้องปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด ขับช้า จอดป้ายรถเมล์สนิท ก่อนให้ผู้โดยสารขึ้น-ลงรถ ขับด้วยความระมัดระวังในเส้นทางที่มีฝนตกหรือเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วม ขณะที่พนักงานเก็บค่าโดยสารต้องคอยดูความเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกผู้โดยสารระหว่างที่ใช้บริการ เพื่อให้ถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย