สถานการณ์ฟุตบอลไทยลีก 2023-24 ในช่วงโค้งสุดท้าย เหลือ 2 เกม หัวตาราง แม้จะยังไม่ได้แชมป์ แต่ก็ค่อนข้างชัดเจน โดยเกมล่าสุด บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเสมอ การท่าเรือ เอฟซี 1-1 ส่วน ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เปิดบ้านชนะ ตราด เอฟซี 5-0 ทำให้คะแนนตอนนี้ บุรีรัมย์ มี 63 แต้ม ส่วน ทรู แบงค็อก 58 แต้ม ตามอยู่ 5 แต้ม

2 นัดสุดท้าย บุรีรัมย์ วันที่ 18 พ.ค. เยือน อุทัยธานี และวันที่ 26 พ.ค. เปิดบ้านพบ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ส่วน ทรู แบงค็อก วันที่ 17 พ.ค. เยือน โปลิศ เทโร และวันที่ 26 พ.ค. เปิดบ้านพบ อุทัยธานี โดย บุรีรัมย์ ต้องการแค่ 1 แต้ม จาก 2 นัด จะได้แชมป์สมัย 9 และแชมป์ 4 สมัยซ้อนทีมแรกของไทย เนื่องจากแม้จะจบคะแนนเท่ากัน แต่ บุรีรัมย์ เฮดทูเฮดดีกว่า ทรู แบงค็อก

“ฉลามชล” ร่อแร่ส่อร่วงเต็มที
ที่ดุเดือด คือโซนท้ายตาราง หลังจาก ชลบุรี เอฟซี โดน พีที ประจวบ เอฟซี ตีเสมอในช่วงทดเวลา ทำให้สถานการณ์ฉลามชลโคม่าทันที

อันดับโซนท้ายตาราง หลังผ่าน 28 นัด ตอนนี้ 12.ลำพูน วอริเออร์ (ก่อนเตะนัด 28) 31 แต้ม, 13.พีที ประจวบ 31 แต้ม, 14.ชลบุรี เอฟซี 27 แต้ม, 15.ตราด เอฟซี 25 แต้ม, 16.โปลิศ เทโร 25 แต้ม

ตราด กับ เทโร ไม่น่ารอดแล้ว เหลือ 1 โควตา อันดับ 14 ที่ตอนนี้ ชลบุรี ตาม ประจวบ 4 แต้ม ขณะที่ ลำพูน ก็อาจต้องลงมาร่วมวงด้วย ถ้าเกมวันจันทร์แพ้ อุทัยธานี

โปรแกรมเตะ ทีมหนีตาย ลำพูน วอริเออร์ (31 แต้ม ก่อนเล่นในบ้านพบ อุทัยธานี วันที่ 13 พ.ค.) 18 พ.ค. พบ ตราด (เยือน), 26 พ.ค. พบ สุโขทัย (เยือน)

พีที ประจวบ (31 แต้ม) โปรแกรม 18 พ.ค. พบ เชียงราย (เหย้า), 26 พ.ค. พบ ราชบุรี (เยือน)

ชลบุรี เอฟซี (27 แต้ม) โปรแกรม 18 พ.ค. พบ เมืองทอง (เยือน), 26 พ.ค. พบ ตราด (เหย้า)

ขณะเดียวกัน ในกรณีที่แต้มเท่ากัน จะวัดที่เฮดทูเฮด โดยผลงานการพบกันของ 3 ทีม ประจวบ ชนะทั้ง ชลบุรี กับ ลำพูน และ ชลบุรี เสมอ ลำพูน

นั่นหมายความว่า ประจวบ อยู่ในสถานการณ์ที่ดีมาก ต่อการหนีตกชั้น ทั้งคะแนนที่นำอยู่ 4 แต้ม และเฮดทูเฮดดีกว่า 2 นัดท้ายขอแค่ 2 แต้ม ก็รอดชัวร์ ส่วน ชลบุรี อาการหนัก ต้องชนะทั้ง 2 นัดให้ได้ก่อน แล้วไปลุ้น ประจวบ ให้แหกโค้งได้ไม่เกิน 1 แต้ม ฉลามชล จึงจะรอด

ชลฯสู้แบบไม่มีอะไรจะเสีย
ด้าน “โค้ชแบงค์” ณัฐวุฒิ วิจิตรเวชการ ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนชลบุรี กล่าวหลังเกมเสมอ ประจวบ ว่า ส่วนตัวแล้ว ถึงเหลือแค่ 1 เปอร์เซ็นต์ก็มีความหวัง ทำให้ได้ 6 แต้ม แล้วไปดูทีมอื่นจะพลาดไหม การเจอเมืองทองตอนนี้ยอมรับว่าเป็นรอง แต่จะไปด้วยความทุ่มเท 2 นัดที่เหลือจะเล่นด้วยความทุ่มเทร้อยเปอร์เซ็นต์ ขณะที่ “เหลิม” เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว เซ็นเตอร์แบ๊กตัวเก๋า กล่าวว่า ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ทุกเกมต้องเต็มที่ เกมนี้ผิดหวังกับคะแนน แต่ขอบคุณน้องๆ ที่ช่วยกัน ขอให้สู้กันต่อไป

เปิดปูม “ฉลามชล” ทีมตำนาน
สำหรับ ชลบุรี เอฟซี นับว่าเป็นหนึ่งในทีมต้นแบบสโมสรฟุตบอลอาชีพ ปลุกกระแสท้องถิ่นนิยม ก้าวมาจากโปรลีก เป็นแชมป์ปี 2548 ก่อนได้เล่นไทยลีก จากการปรับระบบมารวมลีกกัน แค่ปีที่ 2 บนลีกสูงสุดก็คว้าแชมป์ไทยลีก ในปี 2550, แชมป์เอฟเอคัพ ปี 2553 กับ 2559 แต่ช่วงหลัง ประสบปัญหาสภาพการเงิน มาเน้นปั้นเด็กในอคาเดมีขึ้นมาเป็นหลัก ล่าสุดมาเจอวิกฤติ ต้องดิ้นรนหนัก.