สืบเนื่องจากนายโรห์ อึนจง อายุ 34 ปี นักท่องเที่ยวสัญชาติเกาหลีใต้ เดินทางเข้ามาในประเทศไทย เมื่อวันที่ 30 เม.ย. แล้วหายตัวไป เชื่อว่าถูกอุ้มเรียกค่าไถ่ กระทั่งแม่ของนายโรห์ ได้รับโทรศัพท์ปริศนา พร้อมบอกว่า ลูกชายของตนได้นำยาเสพติดไปทิ้งน้ำ ทำให้ได้รับความเสียหาย แม่ต้องเอาเงินมาให้ 3 ล้านบาท ไม่เช่นนั้นลูกชายจะถูกฆ่าตาย แม่ของนายโรห์ ไม่สบายใจได้เดินทางเข้าแจ้งความกับสถานทูตเกาหลี เพื่อประสานมาทางตำรวจ สน.คลองตัน ให้ทำการเร่งติดตามตัว นั้น

คืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 11 พ.ค. ภายหลังเจ้าหน้าที่สอบถามภรรยา ซึ่งเป็นคนไทย ทราบว่า เจอนายโรห์ ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 2 พ.ค. ที่ผับย่านอาร์ซีเอ เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าวันที่ 3 พ.ค. เวลาประมาณตี 2 มีชายชาวเกาหลี 2 คนประกบแล้วพานายโรห์ขึ้นรถไป เมื่อตรวจสอบพบว่ารถดังกล่าวเป็นรถเช่า มุ่งหน้าเส้นทางพัทยา ก่อนที่จะเปลี่ยนรถเช่าคันใหม่เป็นรถกระบะและเช่าที่พักใกล้กับอ่างเก็บน้ำมาบประชัน พัทยา ต่อมาเมื่อวันที่ 4 พ.ค. ประมาณ 3 ทุ่มรถกระบะคันดังกล่าวขับออกมาจากที่พัก โดยมีผ้าคลุมสีดำปิดอยู่ และมีวัตถุอยู่ในกระบะสีดำ ตำรวจจึงได้ทำการไล่กล้องวงจรปิด พบว่ารถคันดังกล่าวได้มีการไปซื้อถังพลาสติกสีดำ ซื้อเชือกที่ร้านค้าเพื่อเตรียมการ ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนต่อพบว่ารถกระบะคันดังกล่าวได้มาจอดรถบริเวณอ่างน้ำมาบประชันประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนจะกลับไปยังที่พักที่เช่าไว้

เจ้าหน้าที่จึงได้ระดมทีมนักประดามาที่อ่างเก็บน้ำเพื่องมและตรวจสอบ พบมีถังน้ำสีดำถูกโบกปูนไว้ และมีคนอยู่ข้างใน เบื้องต้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคล แต่เชื่อว่าเป็นนายโรห์ชาวเกาหลีที่หายตัวไป ส่วนคนร้าย 2 ราย สามารถระบุตัวบุคคลได้แล้วว่าเป็นใคร ซึ่ง 1 รายได้เดินทางหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้วเมื่อวันที่ 9 พ.ค. ส่วนอีก 1 รายยังไม่พบการเดินทางออก อยู่ระหว่างการติดตามตัวเพื่อมาสอบสวนและดำเนินคดีต่อไป.