กรณีปัญหา 8 โปรเจกต์ยักษ์ งบกว่า 545 ล้านบาท กรมโยธาธิการและผังเมือง โครงการพัฒนาเมืองกาฬสินธุ์ เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ฝีมือ 2 หจก.ขาใหญ่แห่งเมืองน้ำดำเป็นผู้รับจ้าง โดยเริ่มรับงบประมาณและก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2562 ถึงปัจจุบันก่อสร้างไม่เสร็จแม้แต่โครงการเดียว จนถูกชาวกาฬสินธุ์ประณามว่าเป็น “โครงการ 7 ชั่วโคตร” อีกทั้ง 8 โครงการใหญ่ ผู้รับจ้างได้เบิกเงินไปแล้วกว่า 250 ล้านบาท ความเดือดร้อนและความเสียหายกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพประชาชน ประชาชนไม่ได้รับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ก่อนหน้าอดีตประธานหอการค้าจังหวัดระบุด้วยว่า ความล่าช้าครั้งนี้ ยังสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจภายในจังหวัดกว่า 7,500 ล้านบาท ปัจจุบันแม้ กรมโยธาฯ แจ้งว่าได้ยกเลิกสัญญากับ หจก.ประชาพัฒน์ และ หจก.เฮงนำกิจ ไปแล้ว แต่เนื่องจากยังไม่แสดงหลักฐานออกมาเป็นลายลักษณ์อักษรถึงผลการดำเนินการที่ผู้รับจ้างต้องรับผิดชอบต่อภาษีประชาชน ทำให้เครือข่าย ป.ป.ท.ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์-ภาคประชาชน รวมถึงชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบ ยังคงออกมาเรียกร้องให้กรมโยธาฯ เปิดเผยข้อมูล พร้อมเรียกร้องให้ สำนักงาน ป.ป.ช.-สตง. ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ เข้าตรวจสอบ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

คืบหน้าเมื่อวันที่ 11 พ.ค. มีรายงานแจ้งว่า กระแสข้อร้องเรียนให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ หามาตรการหรือแผนการบรรเทาทุกข์ให้กับชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการดังกล่าวเริ่มดังขึ้น โดยชาวบ้านประณามว่าเป็นการก่อสร้าง 7 ชั่วโคตร ประชาชนภายในจังหวัดเริ่มตื่นตัวมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ การทิ้งงานของผู้รับเหมาขาใหญ่ ประชาชนได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากในระยะนี้ เริ่มมีฝนตกลงมาขังในท่อระบายน้ำและถนนที่ก่อสร้างไม่เสร็จ ทำให้เกิดน้ำขังสร้างความลำบากให้กับประชาชนที่มีบ้านอาศัยอยู่ในจุดที่ก่อสร้าง อีกทั้งเกรงว่าจะกลายเป็นสถานที่สะสมเชื้อโรค แต่ประเด็นใหญ่ที่กำลังกลายเป็นกระแสไวรัลในโลกโซเชียล มีการแชร์ต่อๆ กัน เมื่อช่องยูทูบของสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดกาฬสินธุ์ (สวท.กาฬสินธุ์ FM 93 MHz) ได้นำเอาคลิปการประชุมคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพลระดับจังหวัด ครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 67 ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมฟ้าแดดสงยาง ศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ ความยาว 21 นาที ลงเผยแพร่ในคลิป มี นายสนั่น พงษ์อักษร ผวจ.กาฬสินธุ์ นั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน และมีผู้แทนตำรวจ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนหัวหน้าส่วนราชการ เข้ามาตอบข้อซักถาม โดยเฉพาะประเด็นมาเฟียกาฬสินธุ์ ซึ่งที่ประชุมยืนยันว่า ไม่มีมาเฟียบุกกาฬสินธุ์ รวมถึงการรายงานปัญหาการก่อสร้าง 7 ชั่วโคตร มีผู้แทนจากสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดกาฬสินธุ์ ออกมายืนยันว่า อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ได้สั่งยกเลิกโครงการกับ หจก.ประชาพัฒน์และ หจก.เฮงนำกิจ แล้ว 2 โครงการ ที่กำลังดำเนินการยกเลิกอีก 4 โครงการ รวมถึงอีก 2 โครงการที่จะยกเลิกทั้งหมดต่อไปในอนาคต

รายงานแจ้งว่า คลิปนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างมาก โดยมีเนื้อหาการโต้ตอบพูดคุย ระหว่างส่วนราชการและ ผวจ.กาฬสินธุ์ ที่ต้องการทราบถึงประเด็นปัญหามาเฟียบุกกาฬสินธุ์ ที่ได้ตั้งคำถามไปถึงฝ่ายความมั่นคง โดยเฉพาะตำรวจที่มีการตั้งด่านและสอบถามนายอำเภอ และหัวหน้าส่วนราชการ ฝ่ายปกครอง ในที่ประชุมยืนยันว่าไม่มีมาเฟียกาฬสินธุ์ นอกจากนี้ มีการนำเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นกรณีปัญหาการก่อสร้าง 7 ชั่วโคตรนั้น มีการหยิบเรื่องนี้มาพูดคุยเช่นกัน ทั้งนี้ ผวจ.กาฬสินธุ์ พูดว่า สำหรับ 8 โครงการของกรมโยธาฯ ที่กรมโยธาฯ จัดมาลงพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ และมีปัญหานั้น ตนทราบว่าปัญหาเป็นเรื่องของผู้รับเหมาที่เขาขาดสภาพคล่อง การดำเนินงาน กรรมการตรวจสอบทั้งหมด เป็นของส่วนกลางทั้งหมด ในส่วนแผนงานโครงการต่างๆ ให้ปลัดจังหวัดประสานสำนักงานโยธาธิการและผังเมือง จ.กาฬสินธุ์ ได้แจ้งต่อไปยังกรมโยธาธิการและผังเมือง ในฐานะที่เป็นคู่สัญญากับบริษัท … “ซึ่งบริษัทนี้ก็เป็นบริษัทใน จ.กาฬสินธุ์ ของเรา คนบ้านเราทั้งนั้น เราก็ควรจะให้การสนับสนุนส่งเสริมกันไป ผมมองอย่างนั้น” นายสนั่นกล่าว ก่อนที่จะขอมติในที่ประชุมว่า จ.กาฬสินธุ์ ไม่มีมาเฟีย พร้อมสร้างบรรยากาศให้ดีขึ้นด้วยรอยยิ้มแย้มและส่งเสียงหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

รายงานแจ้งอีกว่า ในช่วงท้าย ผู้แทนสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้รายงานความคืบหน้าในการดำเนินการกับผู้รับจ้างทิ้งงาน ยืนยันว่า ขณะนี้ กรมโยธาธิการได้ยกเลิก 2 โครงการ ในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ คือโครงการระบบประปาป้องกันน้ำท่วมเมือง งบ 148 ล้านบาท และโครงการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งซอยน้ำทิพย์ ส่วนที่กำลังดำเนินการพิจารณายกอีก 4 โครงการปลายเดือน คือ โครงการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งหน้าวัดใต้โพธิ์ค้ำ เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์, โครงการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งลำน้ำพาน ต.ลำพาน อ.เมืองกาฬสินธุ์ และโครงการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งแม่น้ำชี อีก 2 จุด ในขณะที่โครงการที่เหลืออีก 2 โครงการ กรมโยธาฯ ได้ส่งเรื่องให้ทางสำนักงบประมาณให้ความเห็นชอบอยู่ พร้อมระบุ หจก.ประชาพัฒน์ และ หจก.เฮงนำกิจ ไม่มีสิทธิเข้ามาทำงานกับหน่วยงานราชการและของกรมโยธาฯ อีกต่อไป

ด้านชาวบ้านรวมถึงกลุ่มแรงงานผู้ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้าง 7 ชั่วโคตร ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ต่อคำพูดของ นายสนั่น พงษ์อักษร ผวจ.กาฬสินธุ์ โดยเฉพาะคำพูดในที่ประชุมที่ว่า “บริษัทนี้ก็เป็นบริษัทใน จ.กาฬสินธุ์ ของเรา เป็นคนบ้านเราทั้งนั้น เราก็ควรจะให้การสนับสนุนส่งเสริมกันไป ผมมองอย่างนั้น” คำพูดนี้ทำให้ชาวบ้านมึนงง ว่าทำไมไม่พูดถึงปัญหาผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อประชาชนจังหวัดกาฬสินธุ์ แทนที่จะพูดว่าจะเยียวยาชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างไร กลับไม่เอ่ยถึง ไปพูดแต่จะดูแลผู้รับเหมาเท่านั้น อีกทั้ง กลุ่มแรงงานที่เคยออกมาให้ข่าวและเปิดใจต่อหน้าอธิบดีกรมโยธาฯ เมื่อวันที่ 29 เม.ย. ที่ผ่านมา ว่าพวกเขาได้รับความเดือดร้อน หจก.ขาใหญ่ไม่จ่ายค่าจ้างทั้งที่บางกลุ่มลงทุนไปแล้วเกือบ 10 ล้านบาท ก็ไม่พูดถึง ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ จึงต้องการให้ผู้บริหารจังหวัดคิดใหม่ เพราะเท่าที่จำได้ นายสนั่น ก่อนที่จะกลับมาเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เคยเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ถึง 4 ปี เคยเป็นคนที่เด็ดขาดช่วยเหลือประชาชนทุกรูปแบบที่ได้รับความเดือดร้อน แต่ทำไมครั้งนี้กลับมาเป็นผู้ว่ากาฬสินธุ์แล้วถึงกลายเป็นแบบนี้ ทั้งที่วันที่เดินทางมาวันแรกที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัด ยังประกาศต่อหน้าส่วนราชการและพ่อค้าคหบดีที่มาต้อนรับว่า “ผมจะทำให้จังหวัดกาฬสินธุ์ดีกว่านี้”

ด้าน นายชาญยุทธ โคตะนนท์ ประธานคณะทำงานเครือข่ายภาคประชาสังคม ในการต่อต้านการทุจริต ป.ป.ท.เขต 4 ประจำ จ.กาฬสินธุ์ และที่ปรึกษาฝ่ายวิชาการ คณะ กธจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ขณะที่รอคอยความชัดเจนจากกรมโยธาธิการฯ ในการประกาศยกเลิกสัญญาและดำเนินการทางระเบียบพัสดุ กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง กับผู้รับเหมาทั้ง 2 ราย คณะกรรมการธรรมาภิบาล จ.กาฬสินธุ์ (กธจ.) ยังได้รับรายงานความเดือดร้อน จากประชาชนผู้ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนที่มีที่พักอาศัย และสถานประกอบการอยู่บริเวณจุดก่อสร้างผู้รับเหมาทิ้งงาน ซึ่งตกอยู่ในความวิตกกังวลที่จะต้องใช้ชีวิตอย่างลำบากแสนเข็ญ เพราะจะต้องเผชิญกับภาวะน้ำท่วมในฤดูฝน สาเหตุจากน้ำไม่มีทางระบายและเอ่อท่วมถนน รวมทั้งที่พักอาศัยอย่างหลีกเลี่ยงเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากการช่วยเหลือเยียวยาของภาครัฐและผู้รับเหมา ยังไม่มีการดำเนินการใด ทั้งๆ ที่อธิบดีกรมโยธาฯ ได้ให้แนวทางไว้ว่า จะให้ทางจังหวัดมีมาตรการช่วยเหลือโดยผ่านศูนย์คุ้มครองผู้บริโภค (ศคบ.) และศูนย์ดำรงธรรม ชาวบ้านจึงจะได้รวบรวมปัญหาความเดือดร้อน ส่งต่อมายังตน เพื่อทำการร้องเรียนไปยังสำนักงาน ป.ป.ช.จ.กาฬสินธุ์ และ สตง.จ.กาฬสินธุ์ ต่อไป.