เมื่อวันที่ 8 ก.ค. ที่ กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงการเสนอยกระดับมาตรการควบคุมโควิด-19 ว่า สถานการณ์โควิด-19 ขณะนี้ ตนและ สธ.มีความกังวลตลอดเวลา และหาทางที่จะแก้ไขให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในส่วนที่ตนสามารถประสานงานได้ เช่น ติดต่อ รับข้อเสนอ ประสานงาน รมว.คมนาคม จัดตั้ง รพ.สนาม ที่มีการยกระดับ เพื่อหาเตียงให้มากที่สุด อย่างเช่นที่อาคารผู้โดยสาร สนามบินสุวรรณภูมิ ที่เพิ่งสร้างเสร็จและยังไม่มีกำหนดการจะเปิดใช้ เราก็เอามารองรับผู้ป่วยก่อน ซึ่งจะยกระดับเหมือน รพ.บุษราคัม
สำหรับมาตรการควบคุม ป้องกันโรคของกระทรวงสาธารณสุขที่ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด สธ. ได้แถลงข่าวไปแล้วนั้นต้องรอให้ ศบค.ชุดใหญ่อนุมัติก่อน ซึ่งจะประชุมในวันที่ 9 ก.ค. ก็ดูว่าข้อเสนอของกระทรวงจะออกมาเป็นอย่างไร ก็ต้องฟังหลายฝ่ายๆ อาจต้องฟังภาคเอกชนด้วย เพราะ ศบค.ก็ได้เชิญภาคเอกชนเข้าร่วมด้วย
เมื่อถามว่ากังวลว่ามาตรการที่ สธ.เสนอไป จะมีการถูกตีตกหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ทาง สธ.เสนอทุกอย่างตามหลักวิชาการทางการแพทย์ สถานการณ์แต่ละครั้งเอามาเทียบกันไม่ได้ ต้องใช้สถานการณ์ปัจจุบันที่สุด คราวนี้ท่านเลขาฯ สมช. ท่านก็ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องจะเพิ่มมาตรการ ขอให้ สธ.เสนอขึ้นไปที่ ศบค. ซึ่งวันนี้ท่านปลัด สธ. ก็ทำมาตรการเสนอขึ้นไป แล้วก็ไปร่วมกัน หารือใน ศบค.ชุดเล็ก และนำเสนอ ศบค.ชุดใหญ่ เมื่อถามย้ำว่า คาดว่าครั้งนี้ทาง ศบค. จะรับฟัง สธ.มากขึ้น และเห็นชอบมาตรการที่เสนอไป นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้มีการพูดคุยกันมากขึ้นระหว่างคณะทำงาน เป็นการเสนอและสนอง ระหว่างผู้ปฏิบัติงานด้วยกัน
“ศบค.ชุดใหญ่เป็นผู้บริหาร คณะรัฐมนตรี ถ้าผู้ปฏิบัติงานเขาเห็นพ้องต้องกันในทุกภาคส่วน ทั้งความมั่นคง การแพทย์สาธารณสุข เศรษฐกิจ ถ้าเห็นพ้องกัน ก็คงไม่มีใครจะโต้แย้งอะไร” นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามว่าทาง สธ. จะมีการช่วยเหลือเรื่องการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในกรุงเทพมหานคร (กทม.) อย่างไรบ้าง นายอนุทิน กล่าวว่า เราประสาน กทม.และแจ้งแล้วว่าต้องดูแลประชาชนให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ สธ.เองก็พยายามหาวิธีการตรวจเชื้อให้เร็วขึ้น เช่น การใช้ชุดตรวจแอนติเจน แต่จะใช้อย่างไรขึ้นอยู่กับทางการแพทย์ และทาง สธ.ก็ได้พยายามหาเตียงเพิ่มตลอดเวลา เช่น อาคารผู้โดยสาร สนามบินสุวรรณภูมิ.