สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 4 ต.ค.ว่าทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ออกแถลงการณ์ เมื่อวันจันทร์ ว่าโทรศัพท์สายตรงระหว่างรัฐบาลเกาหลีใต้กับเกาหลีเหนือ กลับมาเปิดใช้งานได้อีกครั้ง เมื่อ เวลา 09.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ( 07.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ) 
แม้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกาหลีเหนือระงับการเชื่อมต่อโทรศัพท์สายด่วน แล้วกลับมาติดต่อกันอีกครั้ง โดยการตัดสายครั้งนี้กินเวลา 55 วันเต็ม แต่ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้น หลังนายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ กล่าวเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ว่ารัฐบาลเปียงยางพร้อมกลับมาเชื่อมต่อโทรศัพท์สายตรงกับรัฐบาลโซล ขณะที่สำนักข่าวกลางเกาหลี ( เคซีเอ็นเอ ) กระบอกเสียงของรัฐบาลเปียงยาง ยืนยันว่า โทรศัพท์สายตรงระหว่างสองเกาหลีกลับมาเชื่อมต่อกันแล้วจริง ตรงตามเจตนารมณ์ของท่านผู้นำ
อย่างไรก็ตาม ผู้นำหนุ่มของเกาหลีเหนือกล่าวว่า เกาหลีใต้ "ประสาทหลอน" กับการอยู่ในภาวะย้ำคิดตลอดเวลา ว่าจะตกเป็นเป้าหมายของการคุกคามทางทหารจากรัฐบาลเปียงยาง และเตือนรัฐบาลโซลว่า สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีกำลังอยู่บนทางสองแพร่งระหว่าง "การประนีประนอมอย่างยั่งยืน" กับ "วงจรอุบาทว์ของการเผชิญหน้า" พร้อมทั้งวิจารณ์เกาหลีใต้เป็นฝ่ายทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ ด้วยการพัฒนาขีปนาวุธและยังคงซ้อมรบกับสหรัฐ
นอกจากนี้ คิมยังคงปฏิเสธ "ข้อเสนอเจรจา" ที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนของสหรัฐหยิบยกขึ้นมากล่าวถึงบ่อยครั้งขึ้นในระยะหลัง ว่าเป็น "การมีเจตนาซ่อนเร้น" ตราบใดที่ในเวลาเดียวกัน รัฐบาลวอชิงตันยังคงดำเนินนโยบายข่มขู่คุกคามต่อเกาหลีเหนือ

อนึ่ง กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือออกแถลงการณ์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับการที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) ประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หารือสถานการณ์ที่รัฐบาลเปียงยางทดสอบขีปนาวุธหลายระลอก เมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา "เป็นการรุกล้ำและข่มขู่คุกคาม" อธิปไตยของเกาหลีเหนืออย่างร้ายแรง และประณามยูเอ็นเอสซี "สองมาตรฐาน" ด้วยการ "เพิกเฉย" ต่อการที่สหรัฐยังคงซ้อมรบและทดสอบขีปนาวุธ แต่กลับเดินหน้าประณามเกาหลีเหนือ.

เครดิตภาพ : AP