จากกรณีข่าวดัง ที่มีผู้ใช้บัญชีติ๊กต็อกได้ออกมาแฉประสบการณ์รอดตายแบบหวุดหวิด หลังได้ไปร่วมงานบุญบวชพระ ปรากฏว่าขณะที่กำลังทำพิธีเดินรอบโบสถ์ กลับมีแก๊งวัยรุ่นยกพวกตีกัน งานนี้ทำเอาพิธีกรรมทางศาสนาต้องหยุดชะงักทันที ซ้ำญาติพี่น้องต้องคอยห้ามปรามนาค หลังพยายามจะเข้าไปเคลียร์ ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ เกิดขึ้นที่วัดป่าคา อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี โดยพบว่าหลังก่อเหตุนั้น กลุ่มผู้ที่ก่อเหตุได้หลบหนีลอยนวล ซึ่งเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดดังกล่าว เพื่อสอบถามเรื่องราวดังกล่าวกับพระ เจ้าของงานบวชในเหตุการณ์ พร้อมด้วยเจ้าอาวาสวัด และชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ ได้เปิดเผยเรื่องราวดังกล่าวให้ฟัง

นายธเนศ หรือ พระธรรมรักษ์โต เล่าว่า วันนั้นตนเองกำลังจะเข้าโบสถ์ เหตุการณ์ตอนแรกเริ่มขึ้นที่กระชากคอเสื้อกันก่อน พอเริ่มตอนนั้น ตนเองเห็นเหตุการณ์ก็จะออกมาห้าม แต่คนในงานก็มาห้ามเอาไว้ เพราะเขาคิดว่าตนเองจะไปต่อยตีกับเขา โดยคนที่ก่อเหตุนั้นตนเองก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร มีพี่สาวที่รู้จักอยู่ 1-2 คน ซึ่งคนที่เหลือนั้นก็เกาะกลุ่มกับคน ๆ นั้นมา ยืนยันว่าตนเองไม่รู้จัก ส่วนสาเหตุนั้นก็ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร ส่วนคนที่เป็นคู่กรณีอีกฝ่ายนั้น เป็นเพื่อนที่อยู่แถวบ้านตนเอง ซึ่งตอนนั้นก็รู้สึกเสียใจ เพราะเสียงานเรา ซึ่งก็อยากฝากถึงคนที่มาร่วมงานแล้วมาก่อเหตุการณ์อะไรแบบนี้ ก็อยากให้คิดดี ๆ เพราะคนจัดเขาก็เสียงาน เสียเงิน เสียหน้า

ด้าน พระปัจญจพัฒน์ สุตกวี รักษาการเจ้าอาวาสวัดป่าคา กล่าวว่า วันบวชนาควันนั้น ตรงกับวันที่ 2 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าภาพก็มีการเอาเสียงแคนมาแห่รอบโบสถ์ ซึ่งตอนนั้นก็กำลังจะเข้าโบสถ์อยู่แล้ว ซึ่งกลุ่มคนที่ก่อเหตุนั้นก็เป็นวัยรุ่น เพื่อนของเพื่อนมาด้วยกันชวนกันมา ก็ไม่รู้ว่าเขม่นกันหรืออย่างไร ซึ่งธรรมดาของวัยรุ่นเที่ยวกัน เมามั่ง ร้อนมั่ง ก็เลยเกิดทะเลาะกัน มีปากเสียงกันนิดหน่อย จากนั้นนาคก็เข้าโบสถ์ตามปกติ ไม่ได้มีเหตุอะไร แต่ภาพที่เราเห็นว่าพระจะเข้าไปนั้น ก็เพราะจะเข้าไปห้าม ส่วนความคิดเห็นถึงเรื่องดังกล่าวนั้น ก็มองว่ามันไม่เหมาะสม ที่จะมามีเรื่องกันในงานบวชแบบนี้ หรือที่เขาเรียกกันว่า มารพจญ แต่ก็ไม่ได้กระทบกระเทือนกับนาค กับเจ้าภาพเท่าไหร่ ซึ่งก็อยากจะฝากถึงเจ้าภาพงานต่อไปว่า ให้ดูถึงวัยรุ่น ดูเรื่องของมึนเมา ไม่ควรเอาเข้ามาในวัด เจ้าอาวาส กล่าว

ด้าน นายปราณี จำปาเกตุ อายุ 59 ปี ชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ทราบมาว่าคนที่ก่อเหตุนั้น อีกฝั่งเป็นคนหนองม่วง อีกฝั่งเป็นคนหนองแขม ซึ่งอยู่คนละหมู่บ้านกัน ซึ่งตอนนั้นตนเองก็ทำงานวัดอยู่ ได้ยินเสียงคนเอะอะโวยวายกันก็ไป มองดูพบว่าเขาแยกย้ายกันแล้ว ซึ่งที่วัดก็ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน งานนี้เป็นงานแรก ซึ่งก็อยากจะฝากถึงทุกคนที่มาร่วมงาน หากหนักนิดเบาหน่อยก็อยากให้อภัยกัน เพราะคนที่เขาจัดงานนั้น เขาก็ตั้งใจจัดกันมา ก็จะเสียงานเขา…