นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ว่า ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจากับบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ในฐานะผู้รับสัมปทานบริหารจัดการทางพิเศษ (ด่วน) ศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่ 2) ช่วงงามวงศ์วาน-พญาไท-พระราม 9 ในการปรับลดอัตราค่าผ่านทางฯ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในการใช้ทางด่วนให้แก่ประชาชน เนื่องจากปัจจุบันประชาชนต้องจ่ายค่าผ่านทางรวมแล้วกว่า 100บาทต่อวัน โดยระยะแรกจะเริ่มดำเนินการกับทางด่วนขั้นที่ 2 ช่วงงามวงศ์วาน-พญาไท-พระราม 9 ระยะทางประมาณ 17 กิโลเมตร (กม.) เนื่องจากมีผู้ใช้ทางกว่า 1.04 ล้านคันต่อวัน ทั้งนี้ จากการเจรจากับ BEM เบื้องต้นมีแนวโน้มที่ดี ไม่น่าหนักใจ สามารถที่จะปรับลดค่าผ่านทางลงได้

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันจากงามวงศ์วานไปพระราม 9 อยู่ที่ 90 บาท (ด่านประชาชื่น 65 บาท ด่านอโศก 25 บาท) ลดเหลือ 50 บาท จ่ายที่ด่านประชาชื่น 50 บาท (ลดไป 15 บาท) และยกเลิกด่านอโศกที่เคยจ่าย 25 บาท (รวมลดไป 40 บาท) ส่วนจากพระราม 9 ไปงามวงศ์วาน เดิม 90 บาท (ด่านศรีนครินทร์ 25 บาท ด่านอโศก 50 บาท และไปประชาชื่น 15 บาท) ลดเหลือ 50 บาท โดยจ่ายที่ด่านศรีนครินทร์ 25 บาทเหมือนเดิม ด่านอโศกจาก 50 บาท เหลือ 25 บาท  ด่านประชาชื่น (ที่เคยจ่าย 15 บาทยกเลิก) รวมไปกลับลดลง 80 บาท ทั้ง 2 ด่านที่ยกเลิกการจัดเก็บ มีปริมาณรถหนาแน่น จะช่วยทำให้การจราจรคล่องตัวมากขึ้น

นายสุริยะ กล่าวอีกว่า การดำเนินการปรับลดค่าผ่านทางดังกล่าว กทพ. มีแนวทางขยายสัญญาสัมปทานให้กับ BEM ในระบบทางด่วนขั้นที่ 2 ที่จะสิ้นสุดสัญญาในวันที่ 30 ต.ค. 78 และปรับสัดส่วนรายได้จากเดิม กทพ. 60% และผู้รับสัมปทาน 40% โดย กทพ. จะมีรายได้ลดลง เพื่อชดเชยให้กับ BEM ส่วนข้อสรุปจะเป็นการขยายสัญญาให้ BEM อีกกี่ปี และการปรับสัดส่วนรายได้จะเป็นเท่าใด ยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจา ทั้งนี้แนวทางดังกล่าว BEM ต้องรับภาระในการลงทุนก่อสร้างโครงการทางพิเศษยกระดับชั้นที่ 2 สายงามวงศ์วาน-พระราม 9 (Double Deck) ให้กับ กทพ. ด้วย เบื้องต้นคาดว่าจะได้ข้อสรุปดังกล่าวภายใน 2 เดือน หรือประมาณเดือน มิ.ย. 67 จากนั้นจะเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) กทพ. เห็นชอบ 

ก่อนเสนอไปยังคณะกรรมการ มาตรา 43 ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2562 พิจารณาเห็นชอบรายละเอียดการแก้ไขสัญญาฯ จากนั้นจะส่งร่างสัญญาฯ ไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อตรวจร่างสัญญา และเสนอ รมว.คมนาคม เพื่อพิจารณาเห็นชอบการแก้ไขสัญญา ก่อนเสนอไปยังคณะกรรมการร่วมทุนรัฐและเอกชน (PPP) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในเดือน ส.ค. 67 โดยหากผ่านความเห็นชอบ จะสามารถปรับลดค่าผ่านทางด่วนขั้นที่ 2 เหลือสูงสุดไม่เกิน 50 บาท ได้ภายในปลายเดือน ส.ค. 67

นายสุริยะ กล่าวด้วยว่า ได้มอบให้ กทพ. พิจารณาหามาตรการรองรับ และบริหารจัดการจราจร เมื่อมีการปรับลดค่าผ่านทางเหลือไม่เกิน 50 บาท ซึ่งคาดว่าอาจจะมีผู้มาใช้ทางเพิ่มขึ้น แต่คงไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางให้แก่ผู้ใช้ทาง และได้ให้ยกไม้กั้นในช่อง Easy Pass ออกด้วย เพื่อให้การเดินทางสะดวก และรวดเร็วมากขึ้น พร้อมกันนี้ให้พยายามลดช่องเงินสด และเพิ่มช่อง Easy Pass เพื่อให้รถไม่ต้องชะลอตัวหน้าด่านเก็บค่าผ่านทาง รวมทั้งเพิ่มช่องทางการจำหน่าย Easy Pass ให้มากขึ้น อย่างไรก็ตามขณะนี้กระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างหาแนวทางในการแก้ปัญหาการจราจรติดขัดในเขตกรุงเทพมหานคร (กทม.) ทั้งระบบ อาทิ การบริหารการจราจรด้านล่างทางด่วน และบริเวณจุดทางลงทางด่วน เป็นต้น คาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน และเป็นรูปธรรมในเร็วๆ นี้

รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ กทพ. ได้ศึกษาโครงการ Double Deck  ภายใต้งานศึกษาความเหมาะสมทางด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ การเงิน และผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการแก้ไขปัญหาการจราจรบนโครงข่ายทางพิเศษ ระยะที่ 1 แล้วเสร็จ อยู่ในขั้นตอนเสนอขออนุมัติรายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) รวมถึงเจรจากับ BEM ในฐานะผู้รับสัมปทานบริหารจัดการทางด่วนศรีรัช ช่วงงามวงศ์วาน-พญาไท-พระราม 9 ในแนวเส้นทางที่ต้องถูกซ้อนทับ เบื้องต้น BEM ยินดีเป็นผู้ลงทุนก่อสร้างโครงการฯ แลกกับการขยายระยะเวลาสัมปทานโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วนเอ (พระราม 9-รัชดาภิเษก) ส่วนบี (พญาไท-บางโคล่) ส่วนซี (รัชดาภิเษก-แจ้งวัฒนะ) ปัจจุบันค่าก่อสร้างโครงการเพิ่มขึ้นจากเดิม 3 หมื่นล้านบาท เป็นประมาณ 3.4 หมื่นล้านบาท.