เมื่อวันที่ 24 เม.ย.67 พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รอง ผบช.ภ.2 และหัวหน้าศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตำรวจภูธรภาค 2 (ศปอส.ภ.2) พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 พล.ต.ต.ผดุงศักดิ์ รักษาสุข ผบก.ภ.จว.จันทบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ภ.จว.ตราด ภ.จว.สระแก้ว ตชด.11 และ 12 กรมทหารพรานที่ 12 และ 13 กองกำลังบูรพา กองป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เขต 12 และ เขต 14 ร่วมประชุมหารือและกำหนดแนวทางการป้องกันการลักลอบติดตั้งวางสายอินเทอร์เน็ตตามแนวชายแดน ณ ห้องประชุมเทศบาลตำบลคลองใหญ่ อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี

สืบเนื่องจากปัจจุบันมีการหลอกลวงทางสื่อออนไลน์ (แก๊งคอลเซ็นเตอร์) รวมถึงการพนันออนไลน์จากประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีการลักลอบใช้อินเทอร์เน็ตและสัญญาณโทรศัพท์จากประเทศไทย รวมถึงใช้คนไทยบางส่วนเดินทางข้ามไปทำงานยังออฟฟิศบ่อนการพนัน โดยมีวิธีการติดตั้งวางสายอินเทอร์เน็ต ลากจากฝั่งไทยเข้าไปในประเทศเพื่อนบ้าน การตั้งสถานีเถื่อนและติดตั้งเสาส่งคลื่นสัญญาณโทรศัพท์เถื่อน เพื่อให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์และพนันออนไลน์ ใช้ก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งมีเป้าหมายคือเหยื่อคนไทย ทำให้สูญเสียทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก

โดยการประชุมหารือได้มีการกำหนดแนวทางศึกษารูปแบบการกระทำความผิด แนวโน้มอาชญกรรมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในอนาคต และได้สร้างความร่วมมือแบบบูรณาการ ในการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ จ.จันทบุรี, จ.ตราด และ จ.สระแก้ว เพื่อป้องกันและปราบปรามเหตุดังกล่าว รวมถึงเพื่อให้มีการประสานงานทางข้อมูลที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ยังได้มีการกำชับเรื่องปัญหาเงินเถื่อน ซึ่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์และพนันออนไลน์แปรสภาพออกนอกประเทศ ขบวนการยาเสพติดที่ใช้ไทยเป็นทางผ่านส่งออกไปประเทศเพื่อนบ้าน การเดินทางลักลอบข้ามแดน และสินค้าเถื่อนและอาวุธสงครามเถื่อน อีกด้วย

ช่วงบ่าย คณะได้ลงพื้นที่ด่านตรวจถาวรบ้านผักกาด อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เพื่อตรวจเยี่ยมและสอบถามปัญหาจากเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานหน้าด่าน พร้อมตรวจสอบและกำหนดแนวทางในการป้องกันปราบปรามการลักลอบติดตั้งสายอินเทอร์เน็ตและเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ข้ามแดน ทั้งนี้ ยังได้เดินทางไปยังศูนย์จันทรารักษ์ ตชด.115 ซี่งเป็นศูนย์บำบัดผู้เสพยาเสพติด ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นศูนย์บำบัดประสิทธิภาพสูง ด้วยการบำบัดฟื้นฟูตามกระบวนการทางการแพทย์แบบใหม่ รวมถึงมีการเสริมความรู้ด้านทักษะสังคม และมีเรียนรู้เกี่ยวกับการประกอบอาชีพต่างๆ ทำให้ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสุข เพื่อนำไปปรับใช้ในงานด้านการบำบัดผู้เสพยาเสพติดในพื้นที่อื่นต่อไป