จากกรณีนโยบายภาครัฐ เกี่ยวกับสวัสดิการแห่งรัฐ “แจกเงิน 3,000 บาทต่อเดือน” ให้กับครอบครัวอุปถัมภ์ผู้สูงอายุ อัปเดตจากทาง กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ซึ่งระบุว่า เพื่อคุ้มครองผู้สูงอายุให้ปลอดภัย และมีคุณภาพชีวิตที่ดี

โดยให้คำจำกัดความครอบครัวอุปถัมภ์ไว้ว่า เป็นบุคคลหรือครอบครัวที่ได้รับอนุญาตจากอธิบดีหรือผู้ว่าราชการจังหวัด แล้วแต่กรณี ให้เป็นครอบครัวอุปถัมป์ผู้สูงอายุที่มีฐานะยากจน และไม่มีผู้ดูแล หรือมีแต่ไม่สามารถเลี้ยงดูได้ โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้เดือนพฤษภาคม 2567 นี้

คุณสมบัติครอบครัวอุปถัมภ์ผู้สูงอายุ
– มีสัญชาติไทย
– อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี ซึ่งมีความพร้อมและศักยภาพในการดูแลผู้สูงอายุ อาจได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการ เป็นราย ๆ ไป  
– มีที่อยู่อาศัยที่เป็นหลักแหล่ง และอยู่ในอาณาบริเวณเดียวกับผู้สูงอายุ
– ได้รับความยินยอมจากสมาชิกทุกคนในครอบครัวว่ามีความพร้อมในการคุ้มครองผู้สูงอายุ
– ไม่เป็นผู้ต้องหาว่ากระทำผิดอาญา และอยู่ระหว่างการสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรืออยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาล

ขั้นตอนยื่นคำขอ
– พื้นที่ในกรุงเทพฯ ยื่นที่กรมกิจการผู้สูงอายุ หรือศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค หรือหน่วยงานที่อธิบดีประกาศกำหนด
– พื้นที่ต่างจังหวัด ยื่นคำขอได้ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด หรือศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุที่อยู่ในจังหวัดนั้น
– นักสังคมสงเคราะห์ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจะไปเยี่ยมบ้านของผู้ยื่นคำขอ เพื่อสอบข้อเท็จจริงตามประวัติบุคคล ครอบครัว บุคคลที่เกี่ยวข้อง สภาพความเป็นอยู่และความเหมาะสม เพื่อพิจารณาคุณสมบัติและความเหมาะสมของผู้ขอเป็นครอบครัวอุปถัมภ์ เสนอต่ออธิบดีและผู้ว่าราชการจังหวัด
– หากผ่านการอนุมัติ ให้ความช่วยเหลือคุ้มครองผู้ดูแลผู้สูงอายุแก่ครอบครัวอุปถัมภ์ ครอบครัวละ 2,000 บาท ต่อผู้สูงอายุ 1 คน/เดือน เว้นแต่มีเหตุจำเป็นเหมาะสม อาจพิจารณาให้เงินช่วยเหลือได้ไม่เกินครอบครัวละ 3,000 บาท ต่อผู้สูงอายุหนึ่งคนต่อเดือน

ใช้เอกสารสำคัญอะไรบ้าง
– ทะเบียนบ้าน
– บัตรประจำตัวประชาชน หรือ บัตรประจำตัวประเภทหนึ่ง ประเภทใดที่มีเลขบัตรประจำตัวประชาชน รูปถ่ายหน้าตรง ซึ่งถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน จำนวน 1 รูป

อย่างไรก็ตาม การขอคุ้มครองดูแลผู้สูงอายุ สามารถขอได้เพียงคราวละ 1 คน กรณีรับมากกว่านั้นให้ระบุเหตุผลและความจำเป็นที่ต้องรับผู้สูงอายุไว้คุ้มครองดูแลมากกว่า 1 คน

ขอบคุณข้อมูล : กรมกิจการผู้สูงอายุกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)