นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยความคืบหน้าการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์โดยรอบท่าอากาศยานของ ทอท.ว่า กระทรวงการคลังมีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาการใช้ประโยชน์ในที่ดินราชพัสดุออกไปอีก 30 ปี นับตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย.64 – 29 ก.ย.94 ครอบคลุมการดำเนินกิจการท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) ซึ่ง ทอท.ทำข้อตกลงการใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุไว้กับกรมท่าอากาศยาน (ทย.) และกองทัพอากาศ (ทอ.)
นายนิตินัย กล่าวต่อว่า การขยายเวลาการใช้ประโยชน์ที่ดินราชพัสดุครั้งนี้ ส่งผลให้เกิดการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ ที่มีมูลค่าการลงทุนสูงในทั้ง 6 ท่าอากาศยานของ ทอท. บนพื้นที่จำนวนมากกว่า 2,100 ไร่ จากพื้นที่ทั้งหมดราว 32,000 ไร่ ตลอดจนส่งเสริมศักยภาพของท่าอากาศยาน ไปพร้อมกับการเพิ่มผลตอบแทนทางการเงินให้กับผู้ประกอบการ นำไปสู่ความคุ้มค่าการลงทุนในกิจการต่างๆ ภายในท่าอากาศยาน พร้อมสร้างรายได้ในระยะยาวให้กับ ทอท. อีกด้วย โดยที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการจำนวนมากแจ้งความจำนงขอเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ว่างเปล่า เพื่อพัฒนาเป็นโครงการต่างๆ มากกว่า 68 โครงการ
อย่างไรก็ตาม ทอท. ได้เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวเอาไว้แล้ว ทั้งด้านการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ และการจัดสรรการใช้ประโยชน์ที่ดินแปลงถนนวัดศรีวารีน้อย 723 ไร่ บริเวณโดยรอบ ทสภ. ซึ่งคาดว่าจะเริ่มจัดสรรผู้ประกอบการกลุ่มแรกเพื่อเข้าใช้ประโยชน์พื้นที่ได้ภายใน 3 เดือนนับจากนี้ หรือภายในเดือน ธ.ค.64 โดยล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท. มีมติเห็นชอบอนุมัติแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม และระบบสาธารณูปโภคหลักบนพื้นที่ดังกล่าว ภายใต้กรอบวงเงินงบประมาณ 1,985.349 ล้านบาท
นายนิตินัย กล่าวด้วยว่า ส่วนความคืบหน้าการแก้ไขข้อตกลงการใช้ที่ดินราชพัสดุนั้น ทย.ได้ลงนามในบันทึกแก้ไขข้อตกลงการใช้ประโยชน์ในที่ดินราชพัสดุในส่วนของ ทย. ทั้ง 5 ท่าอากาศยาน ได้แก่ ทสภ. ทชม.(บางส่วน) ทชร. ทภก. และ ทหญ. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนที่เหลืออีก 2 ท่าอากาศยาน ได้แก่ ทดม. และ ทชม.(บางส่วน) ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการแก้ไขข้อตกลงฯ ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในอีกไม่ช้า.