ทำเอาหลายคนสงสัยหนักมากว่าทำไมนักแสดงสาว ใหม่-สุคนธวา เกิดนิมิตร ถึงสวนกระแสสังคมและโควิดสร้างหนี้ก้อนใหญ่ด้วยการซื้อบ้านราคา 53 ล้านให้คุณพ่ออยู่ จนกลายเป็นดราม่าเบาๆ ว่าเจ้าตัวฟุ่มเฟือยอวดรวย ล่าสุดสาวใหม่ได้ควงคุณพ่อมาเล่าเรื่องนี้ผ่านคุยแซ่บshow พร้อมเปิดเหตุผลที่คุณพ่อเคยไม่ปลื้มลูกเขย ต้น-สรพงษ์ อีกด้วย
ใหม่ เผยว่า “เรื่องสวนกระแสโควิดซื้อบ้าน 53 ล้านปกติโดนดราม่าเยอะมาก ครั้งนี้ขอยอมโดนดราม่าอีกครั้งนึง จริงๆ ไม่ได้สนใจหรือซีเรียสอะไรกับดราม่า ขอบคุณที่เป็นห่วงกลัวเราผ่อนไม่ไหว แต่ตนตั้งใจซื้อให้พ่อเพื่อเป็นของขวัญ เพราะพ่อเลี้ยงเรามาตั้งแต่ 3 เดือน เป็นทั้งพ่อและแม่ พ่อคงเหนื่อยมากแต่ไม่เคยบ่นว่าเหนื่อย อยากทำให้พ่อมีความสุข อีกอย่างพ่อเป็นโรคหัวใจ อยากให้พ่ออยู่กับใหม่เร็วๆ ไม่รู้ว่าพ่อจะตายเมื่อไหร่ ไม่อยากรออนาคต เลยตัดสินใจซื้อเลย และอีกอย่างอยากให้พ่อมีแรงเดินดูบ้าน ไม่ใช่มานอนเป็นผักเป็นปลาอยู่บนเตียงนอนมองแต่บ้าน ถ้าพ่อจะตายก็อยากให้พ่อตายในบ้านของใหม่ที่ซื้อ อนาคตจะโดนยึดจะโดนซ้ำเติมก็ไม่แคร์ไม่อาย บ้านนี้มีพ่อและครอบครัวเราด้วยค่ะ”
“พ่อมีเตือนใหม่ แต่เราไม่ฟังค่ะ เราอยากให้เขามาอยู่กับเราในวินาทีสุดท้าย ถ้าจะตายก็ตายในอ้อมแขนเรา ตายในสายตาเราที่เราได้ดูแลพ่อแม่ ดีกว่าอยู่คนละบ้าน ตายไปเราไม่รู้ อยากให้เขามีความสุขกับเราในวาระสุดท้าย เพราะเขาเป็นโรคหัวใจ แต่เรื่องกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพราะผ่อนบ้านจริงค่ะ เรารู้ค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนเยอะยังไง บ้านหลังนี้ต้องหาเงินเยอะแค่ไหน เลยไม่บอกใครว่าเราเหนื่อยยังไง เดือนแรกผ่อนไปน้ำตาตก เพราะเป็นช่วงที่โควิดกลับมาระลอกใหญ่ ทำให้งานหายเงินหด เราเหลือตังค์หลักร้อย แต่ไม่ต้องให้คนอื่นรู้ กินบะหมี่สำเร็จรูปก็อิ่มอร่อยดี เราอดแต่พ่อเราอิ่ม แค่นั้นก็คือจบ กินเพื่ออยู่ไม่ได้อยู่เพื่อกิน พี่ต้นสามีเราไม่รู้ คงคิดแค่ว่าใหม่คงอยากกิน เพราะโกหกเขาว่าอยากกินอะไรร้อนๆ เราบอกอ้อมๆ ว่าเราชอบ”
“ถามว่าโหดไปไหมก็เดือน 2 ไง มีความรู้สึกว่าเราคิดเกินตัวเหมือนกัน เราเหมือนเกิดมาเพื่อทำให้คนอื่นตลอดเวลา แต่เรามีความสุข เราต้องเข็มแข็งกลืนน้ำตา เดือน 2 โหดมากแต่ไม่ย่อท้อ เพราะมีคนพร้อมที่จะประณามเรา เราแค่อยากทำตามความฝัน เราอยากตอบแทนบุญคุณ บ้านนี้ใหม่ผ่อนเดือนละประมาณแสนเจ็ด รู้สึกว่ามันก็หนักนะ สำหรับผู้หญิงวัย 39 ทั้งรถทั้งบ้าน แต่ก็คิดว่าทำเพื่อพ่อ”
พ่อปัญญา เผยว่า “วันแรกที่ใหม่บอกให้ไปดูบ้านกัน พ่อก็ตกใจดูบ้านที่ไหน เพราะเรามีบ้านอยู่แล้ว ทำไมซื้อบ้านใหม่ พ่อเห็นตัวบ้านก็ตกใจ หลังใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอ ได้ยินราคาก็ตกใจ เป็นห่วงลูก ต่อไปจะส่งไหวไหม ผมก็เตือนว่าจะส่งไหวไหม เพราะอนาคตไม่รู้ว่าจะมีกำลังขนาดไหน เพราะเราก็ไม่ได้มีสมบัติอะไร เรื่องบ้านก็ตื้นตันใจในความหวังดี ที่ใหม่มีให้พ่อ ก็เป็นกำลังใจให้ใหม่ บ้านก็ถูกใจ เดินได้สบาย ที่พ่อเลี้ยงเขามาตั้งแต่ 3 เดือนเพรากับแม่ผู้ให้กำเนิดใหม่ มีปัญหาด้วยกันอยู่บ่อยๆ คุยกันไม่ถูกใจบ้าง เวลาทะเลาะกันเขาก็จะออกจากบ้านไปเพื่อประชด”
“มีครั้งหนึ่งทะเลาะกันที่บ้าน พ่อขึ้นไปชั้นบนเพื่อดูใหม่ ส่วนลูกชายอยู่ข้างล่าง พ่อได้ยินเสียงร้องของลูกชายเลยรีบมาดูเห็นว่าเขาใช้ไม้แขวนเสื้อฟาดหลังลูก พ่อเลยถามว่าทำไมถึงทำแบบนี้ลูกยังเล็กอยู่เลย เขาก็หันมาตบหน้าพ่อและบอกว่าจะทำ..ทำไม และเขาก็ออกจากบ้านไปอีก จนครั้งสุดท้ายคืนนั้นประมาณ 4-5 ทุ่ม เขาก็มาบ้านเขาก็เข้ามาทุบประตูบ้าน จนพ่อทนไม่ไหว พ่อก็เลยหอบลูกออกจากบ้านไปอยู่บ้านพี่สาวที่สมุทรปราการ และหลังจากนั้นก็ไม่เจอเขาอีกเลย และสักปีกว่าพ่อก็ตัดสินใจซื้อบ้านใหม่ที่นนทบุรี ประมาณ 5 แสนกว่า ตอนนั้นไม่มีเงินเลย แต่ก็มีความคิดเหมือนใหม่ เอาไงก็เอา พ่อเป็นราชการเงินเดือน 3 พัน ผ่อนบ้าน 2 พัน เหลือใช้กับลูก 3 คน 1 พัน ก็ใช้ประหยัดที่สุด ลำบากยังไงก็ต้องเลี้ยงลูกให้ได้ เวลาใหม่อยากได้ของเล่นเหมือนเพื่อน ก็บอกลูกว่าไว้ก่อน เดี๋ยวก็พัง ไม่กล้าบอกลูกว่าไม่มีเงิน”
“เรื่องไม่ชอบต้นตอนแรกคือครั้งแรกใหม่ชวนครอบครัวไปทำบุญที่นครนายก ไปทำบุญเกี่ยวกับเด็กยากจน พอไปถึงที่โรงเรียน ใหม่ก็แนะนำให้รู้จักต้น และต้นเขาก็เป็นคนพูดคล่อง ซึ่งพ่อไม่ชอบคนพูดคล่อง อันนี้คือความในใจตอนนั้น พอเสร็จงานเขาก็พากันไปทานข้าว เห็นทีมงานลูกน้องเขาเยอะ และฝ่ายเราไปกันแค่ 3-4 คน เขาก็สั่งอาหารมาเลยเต็มที่ พ่อก็คิดว่ามันสั่งอาหารอะไรวะเนี่ย สั่งโชว์หรือเปล่าวะ พ่อครอบครัวเราสั่งอาหารที่พอกิน พ่อไม่ชอบคนขี้อวด ก็คิดว่าเขาโชว์ว่าเขารวย ก็เฉยๆ กับผู้ชายคนนี้ และหลังจากนั้นก็ไปทานข้าวด้วยกันอีก เขาก็สั่งอาหารเยอะเหมือนกัน พ่อก็เลยไม่ค่อยแฮปปี้ เขาก็ทำแบบนี้ตลอด พ่อก็เลยเป็นปกติ ก็เปิดใจเพราะเขารักใหม่”