จากกรณีเกิดกระแสไวรัลชั่วข้ามคืน หลังผู้ใช้ติ๊กต็อกรายหนึ่ง ได้แชร์คลิป หนุ่มจิตเวช ดีดกีตาร์ร้องเพลงอธิษฐานลารักหน้าไฟ หรือน้ำตาลารักหน้าไฟ ที่แต่งขึ้นเอง แล้วนำมาขับร้องอย่างไพเราะสุดซึ้ง โดยปลัดอำเภอสมเด็จ และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ที่มาติดตามประเมินผลอาการของผู้ป่วยจิตเวชกลุ่มเป้าหมาย พบเห็นแล้วถ่ายคลิปเผยแพร่ทางโซเชียล จนกลายเป็นไวรัลข้ามคืน โดยมีคนเข้ามาติดตาม และคอมเมนต์ พร้อมแชร์ในโลกโซเชียลอย่างแพร่หลายนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 มี.ค. นายวิชาญ อิทธิฤกษ์มงคล นายอำเภอสมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ มอบหมายนายสถาพร วันนุกุล และนายอธิปพันธ์ วรรณศรี ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง ลงพื้นที่ติดตามสภาพจิตใจ บ้านเลขที่ 167 หมู่ 10 บ้านโคกกว้าง ต.มหาไชย อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ ของ นายเดช ธรรมประชา หรือ “ขุนเดช” ศิลปินจิตเวชดังชั่วข้ามคืน

ซึ่งบ้านดังกล่าว พบนายเดช ธรรมประชา หรือ ขุนเดช อายุ 44 ปี โดยมีผู้นำชุมชน ชาวบ้าน มาเยี่ยมให้กำลังใจ และแสดงความยินดี ที่นายเดชจากคนป่วยจิตเวช ได้กลายเป็นศิลปินชื่อดังไปแล้ว จากเพลงอธิษฐานลารักหน้าไฟ หรือน้ำตาลารักหน้าไฟ ซึ่งในการลงพื้นที่ครั้งนี้ ขุนเดช ยังได้นำสมุดเขียนเพลงที่แต่งไว้กว่า 20 เพลงมาให้ดู พร้อมกีตาร์และร้องเพลงเพราะๆ ให้ฟังอีกด้วย

นายวิชาญ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 12 มี.ค. ที่ผ่านมา ชุดปฏิบัติการฝ่ายความมั่นคง อ.สมเด็จ ได้ลงพื้นที่ติดตามและประเมินผลกลุ่มเป้าหมายที่มีอาการจิตเวช นายเดช ธรรมประชา ซึ่งเป็นผู้ป่วยจิตเวชกลุ่มสีแดง ขณะทำการประเมิน นายเดชได้นำกีตาร์คู่ใจ ออกมาดีดและร้องเพลงคลอไปด้วย ปลัดอำเภอและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเห็นว่าเพราะดี จึงได้นำโทรศัพท์มาบันทึกคลิปไว้ ก่อนที่จะเผยแพร่ออกไปในโลกโซเชียล และเกิดเป็นไวรัลดังชั่วข้ามคืน มีคนเข้าไปชมกว่า 3 ล้านวิวดังกล่าว

นายวิชาญ กล่าวอีกว่า หลังทราบเรื่อง ตนได้ลงพื้นที่พบนายเดชที่บ้าน พร้อมได้มอบสายกีตาร์และร่วมเล่นกีตาร์ร้องเพลงกับนายเดชด้วย ยอมรับว่าเป็นคนมีพรสวรรค์ด้านดนตรีและแต่งเพลง ทั้งนี้ ทางอำเภอและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ก็จะได้ลงพื้นที่ประเมินสภาพจิตนายเดชเป็นระยะ เพื่อให้การช่วยเหลือในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป อย่างไรก็ตาม ทราบว่าตั้งแต่ต้นปีนี้เป็นต้นมา สภาพจิตใจของนายเดชดีขึ้นตามลำดับ

เพชรก็คือเพชร! ไวรัลหนุ่มป่วยจิตเวชดีดกีตาร์ ทึ่งร้องเพลงแต่งเอง ‘อธิษฐานลารักหน้าไฟ’

ขณะที่นายเดช หรือ ขุนเดช เล่าว่า ตนอาศัยอยู่บ้านคนเดียว เคยมีครอบครัว แต่หย่าร้างกับอดีตภรรยาแล้ว ปัจจุบันหาเลี้ยงชีพด้วยการรับจ้างทั่วไป และชอบแต่งเพลง เล่นกีตาร์ เป็นชีวิตจิตใจ ซึ่งทุกเพลงแต่งจากชีวิตจริงของตน และสังคมทั่วไป ส่วนใหญ่เป็นสไตล์เพลงเพื่อชีวิต อย่างเพลง “อธิษฐานลารักหน้าไฟ” นั้น แต่งจากแรงบันดาลใจ เข้ากับชีวิตตัวเองที่หย่าร้างกับอดีตภรรยา ทั้งนี้ จากการที่ตนสามารถเล่นกีตาร์และแต่งเพลงได้นั้น นอกจากจะเป็นความสามารถเฉพาะตัวแล้ว ยังซึมซับมาจากคุณพ่อ ที่เคยเป็นคนสอนดนตรีและแต่งเพลง แต่งกลอนลำในชุมชน สมัยที่ตนยังเป็นเด็กอีกด้วย

นายเดช กล่าวอีกว่า ในส่วนที่เพลงของตนกลายเป็นไวรัลนั้น ตนไม่ทราบ เพราะไม่มีโทรศัพท์เล่น ได้ยินจากชาวบ้านเล่าให้ฟังเท่านั้น ทั้งนี้ ขอขอบคุณ อ.ไข่ มาลีฮวนน่า ที่ให้ความสนใจ นำเพลงของตนไปคัฟเวอร์ และขอบคุณค่ายเพลงนาคราชคู่ ที่จะเข้ามาสนับสนุนเป็นนักร้องในสังกัด

ด้านนายเทพทัต กล้าหาญ ประธานค่ายเพลงนาคราชคู่ เอนเตอร์เทนเมนท์ ได้มอบหมายนายรุ่งโรจน์ อาจนะรา และนายอภิชาติ แก้วบูโฮม 2 ศิลปินและโปรดิวเซอร์ ลงพื้นที่ให้กำลังใจและสอบถามนายเดช โดยพบว่า กำลังเล่นกีตาร์และแกะเพลงตามปกติ ท่าทางอารมณ์ดีและมีความสุข คุณเทพทัต กล้าหาญ และบอร์ดบริหาร จึงได้เล็งเห็นในความสามารถนี้ และอยากมอบโอกาสครั้งสำคัญให้ชายคนนี้ ได้ร่วมงานกับทางค่ายเพลงนาคราชคู่ ออกซิงเกิลเป็นของตัวเอง