นายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ คคบ. เห็นชอบให้ดำเนินคดีแพ่งแก่ผู้ประกอบธุรกิจที่ละเมิดสิทธิผู้บริโภค รวมจำนวน 6 ราย โดยบังคับให้ผู้ประกอบธุรกิจคืนเงินให้แก่ผู้บริโภคเป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 1.7 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมาย ทั้งผู้ประกอบธุรกิจด้านเนอร์สซิ่งโฮม ด้านอสังหาริมทรัพย์ ประเภทห้องชุดคอนโดมิเนียม และที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง และธุรกิจด้านสินค้าและบริการทั่วไป ตั้งแต่เรื่องพระเครื่อง ซื้อรถยนต์ใช้แล้ว และการทำความสะอาดบ้านพัก
สำหรับกรณีผู้ประกอบธุรกิจด้านสินค้าและบริการ มีเรื่องที่น่าสนใจ คือ กรณีผู้บริโภคได้สั่งซื้อพระเครื่องกับผู้ขายรายหนึ่ง ปรากฏว่า ได้ส่งสินค้าปลอมให้ จึงขอเงินคืน เรื่องนี้คณะอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองเรื่องราวร้องทุกข์จากผู้บริโภคด้านโฆษณาและบริการพิจารณาเอกสารหลักฐานแล้ว เห็นว่า การกระทำของผู้ขายเป็นการละเมิดสิทธิและเป็นการกระทำโดยเจตนาเอาเปรียบผู้บริโภคโดยไม่เป็นธรรม จึงดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงินให้กับผู้บริโภค
ขณะเดียวกันยังมีกรณีผู้บริโภคได้ทำสัญญาซื้อรถยนต์ใช้แล้ว หรือรถยนต์มือสองจากบริษัทแห่งหนึ่ง ขณะนั้นรถยนต์มีเลขไมล์แสดงอยู่ที่ 1.29 แสนกิโลเมตร ต่อมาได้นำรถยนต์คันพิพาทไปตรวจสภาพรถยนต์จึงทราบว่า ตั้งแต่ปี 53 รถยนต์คันพิพาท มีเลขไมล์อยู่ที่ 7 แสนกิโลเมตร ผู้บริโภคจึงมีความประสงค์ให้บริษัทคืนเงิน
กรณีสุดท้าย ผู้บริโภคได้ทำสัญญาว่าจ้างให้บริษัทฯ ทำความสะอาดบ้านพักอาศัย 13 ครั้ง ครั้งละ 1,384 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 18,000 บาท แต่พนักงานมาทำงานสายเป็นประจำ จึงได้แจ้งให้บริษัทฯ รับทราบ โดยบริษัทฯ แจ้งว่าหากพนักงานมีพฤติกรรมนี้อีก จะคืนเงินให้กับผู้บริโภค ต่อมาพนักงานไม่ได้ไปทำความสะอาดบ้าน จึงได้แจ้งให้บริษัทฯ ทราบ และบริษัทฯ ตกลงจะคืนเงินเป็นเงินจำนวน 11,072 บาท โดยแบ่งชำระ 3 งวด แต่บริษัทฯ ได้ชำระเงินคืนเพียง 3,700 บาท คงเหลืออีกจำนวน 7,372 บาท และผู้บริโภคไม่สามารถติดต่อบริษัทฯ จึงขอ สคบ. ดำเนินคดีแพ่งเพื่อบังคับให้คืนเงินให้กับผู้บริโภค