เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงบ่ายที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.นาหวาย จ.เชียงใหม่ ได้ยื่นคำร้องฝากขัง น.ส.พิยดา ทองคำพันธ์ ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงประชาชน, ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพ์ และ ฟอกเงิน ผ่านทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับศาลจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายวิเชียร อินเรน ทนายความของผู้ต้องหาร่วมรับฟังการยื่นฝากขังด้วย โดยศาลสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขังได้ ในส่วนของการประกันตัวนั้น ทางญาติจะได้หาหลักทรัพย์มายื่นประกันต่อไป จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้คุมตัว น.ส.พิยดา ไปยังทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ในทันที ซึ่งระหว่างที่เดินไปขึ้นรถนั้น น.ส.พิยดา ได้กล่าวกับสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวสั้น ๆ ว่าด้วยสีหน้าเศร้าและน้ำตาคลอ ว่า “…ตอนนี้รู้สึกเสียใจ เครียดมาก ที่ทางบ้านโน่นซัดหนูเต็มที่เลย เขาหาว่าหนูหลอกใช้เขาเป็นเครื่องมือ แต่ไม่เป็นไรค่ะ โดยหนูยืนยันว่าไม่ได้ทำคะ…”

ขณะที่ นายกลยุทธ ทองคำพันธุ์ อายุ 45 ปี พ่อของ น.ส.พิยดา พร้อมด้วยภรรยา (แม่เลี้ยงของ น.ส.พิยดา) ได้มาออกมาร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อ โดยระบุว่า อยากให้ตำรวจช่วยให้ความเป็นธรรมกับลูกสาวบ้าง จะประกันตัวก็ไม่ให้ประกัน เช้านี้ยังมายึดทรัพย์สินอีก ตนต้องเช่ารถมาขับ เงินสดที่เตรียมมาประกันตัวลูกสาวกับโทรศัพท์มือถือก็ถูกยึดไปทั้งหมด ไม่สามารถติดต่อใครได้ หมดหนทางที่จะยื่นประกันตัวลูก อย่างไรก็ตามทางครอบครัวมั่นใจว่า น.ส.พิยดา ไม่ได้เป็นคนโกงผู้เสียหาย

“…คืนที่ผ่านมามีโอกาสได้พูดคุยกับน้องพันช์ หน้าห้องขัง ได้ถามไปว่า เป็นคนโกงผู้เสียหายไปจริงหรือไม่ น้องยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนทำ และซัดทอดว่าคนโกงผู้เสียหายจริง ๆ แล้วเป็นฝ่ายครอบครัวแฟนหนุ่ม ส่วนทรัพย์สินของน้อง ได้มาจากการขายเสื้อผ้าออนไลน์โดยสุจริต ตอนนี้อยากให้ตำรวจช่วยตรวจสอบเส้นทางการเงินของครอบครัวแฟนหนุ่มด้วย อย่าโยนความผิดให้น้องฝ่ายเดียว…” พ่อของ น.ส.พิยดา กล่าว

ด้าน นายวิเชียร อินเรน ทนายความ กล่าวว่า หลังจากนี้ต้องไปทำเรื่องยื่นประกันตัวลูกความก่อน ซึ่งเจ้าตัวยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ตนก็จะไปรวบรวมหลักฐานเอกสารต่าง ๆ มายืนยันความบริสุทธิ์ ส่วนกรณีที่ตำรวจมายึดทรัพย์บิดาและครอบครัวของลูกความ ตนก็จะยื่นร้องขอคืนทรัพย์สิน เพื่อนำทรัพย์สินตรงนั้นมาใช้ประกันตัวต่อไป.