เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 29 ก.พ. ที่ สน.สุทธิสาร ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วย รมต. นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ที่ปรึกษา รมต.กระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายประเทืองวิทย์ ดีใจ ผอ.เขตดินแดง และนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ ‘กัน จอมพลัง’ พานายอภิภู อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นพี่ชายของ น.ส.นิ้ง อายุ 27 ปี ผู้เสียหาย มาติดตามคดีกับ พ.ต.อ.พรเทพ เฉลิมเกียรติ ผกก.สน.สุทธิสาร สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 น้องสาวถูกคลินิกศัลยกรรมย่านห้วยขวาง กทม. รักษาผิดพลาด ทำให้น้องสาวกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา นอนโรงพยาบาลเกือบ 5 ปี จนปัจจุบันยังไม่ได้รับการเยียวยาจากคลินิกดังกล่าว และครอบครัวต้องแบกหนี้ค่ารักษาประมาณ 10 ล้านบาท
กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า พี่ชายของผู้เสียหายประสานขอความช่วยเหลือมาทางตนขอให้ช่วยน้องสาว หลังทำศัลยกรรมและเกิดอาการช็อกคาเตียงที่คลินิก จากนั้นก็มีการส่งตัวไปยังโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง จนตอนนี้เวลาล่วงเลยมาเกือบ 5 ปี ทางครอบครัวพยายามต่อสู้หาความเป็นธรรมมาโดยตลอด เคยไปฟ้องแพ่ง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ทางคลินิกเยียวยาเป็นเงิน 37 ล้านบาท หลังจากนั้นมีการยื่นอุทธรณ์ทั้ง 2 ฝ่าย ศาลตัดสินให้ทางคลินิกเยียวยาเป็นเงิน 29 ล้านบาท แต่ทางคลินิกไม่ยอมจ่ายค่าเยียวยาดังกล่าว
นอกจากนี้ตอนนี้โรงพยาบาลที่น้องสาวรักษาตัวอยู่ ฟ้องเรียกค่ารักษากว่า 30 ล้านบาท เพราะครอบครัวไม่มีเงินจ่าย ครอบครัวลำบากมาก คลินิกไม่มาดูดำดูดี และทางคลินิกก็มีการเปลี่ยนชื่อคลินิก เปลี่ยนชื่อหมอ แต่ยังเปิดบริการอยู่
กัน จอมพลัง กล่าวต่ออีกว่า วันนี้พาพี่ชายมาตามคดีอาญาที่ สน.สุทธิสาร เพราะคดีอยู่ สน.นี้มา 4 ปีกว่า ซึ่งได้ประสานกับ ผกก.สน.สุทธิสาร แล้ว และยื่นข้อมูลทุกอย่างให้แล้ว แต่ต้องให้ความเป็นธรรม เพราะท่านเพิ่งมาใหม่ และในวันที่ 5 มี.ค. 2567 นี้ จะมีการเรียกคู่กรณีมาพูดคุย อีกทั้งตนยังได้ประสานไปยังนายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายประเทืองวิทย์ ดีใจ ผู้อำนวยการเขตดินแดง และนายวิชาญ มีนชัยนันท์ ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข มาช่วยดูแลในเรื่องนี้ด้วย
ด้านพี่ชายของผู้เสียหาย เล่าว่า ตอนส่งโรงพยาบาล หมอบอกว่าน้องสมองขาดออกซิเจน สมองไม่ตอบสนองและไม่สามารถรับรู้อะไรได้ ต้องนอนติดเตียงตลอดชีวิต เจาะคอให้อาหารทางสายยาง ต้องให้หมอทำกายภาพตลอด โดยตอนแรกเองคลินิกบอกจะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลให้ พักหลังบอกว่าอยากให้น้องสาวใช้สิทธิรักษาฟรี 30 บาท ซึ่งตนมองว่าไม่ควร และมองว่าคลินิกไม่มีการดูแล ช่วยเหลือ โดยในช่วงแรกมีการเยียวยามาประมาณ 1 ล้านบาท แต่หลังจากนั้นก็เงียบหายไป และปฏิเสธในเชิงว่าทางคลินิกไม่ได้ทำอะไรผิด จึงมีการฟ้องร้องเกิดขึ้น โดยศาลบอกว่าให้น้องสาวรักษาต่อที่โรงพยาบาลนี้ ด้านทางคลินิกเองตั้งแต่ศาลอุทธรณ์ตัดสินให้ชดใช้ 29 ล้านบาท ก็ไม่มาดูแลอีกเลย และไม่ออกค่ารักษาแม้แต่บาทเดียว ซึ่งค่ารักษาน้องตกเดือนละ 3-4 แสนบาท ตอนนี้ไม่มีเงินจ่ายโรงพยาบาลก็ฟ้องเป็นเงินกว่า 30 ล้านบาท
พี่ชายเล่าต่อว่า ตนสงสารน้อง ตอนนั้นอายุ 22 ปี และต้องนอนติดเตียงจากการรักษาผิดพลาด ไม่มาดูแล แม้คำขอโทษสักคำก็ไม่มี เพราะทางคลินิกมองว่าไม่ได้ทำอะไรผิด
เมื่อถามว่า กรณีที่ทางคลินิกไม่ให้ทานอาหารก่อนเข้าผ่าตัด 1 วัน น้องนิ้งได้ทำตามหรือไม่ พี่ชาย ยืนยันว่า น้องสาวไม่ได้ทานอาหาร จากการตรวจสอบพบว่ากระเพาะว่างไม่มีอาหาร แต่พบมีการใช้ยาสลบเกินขนาด จนกดการหายใจ และพบว่าการรักษากู้การหายใจล้มเหลวไม่ได้มาตรฐาน
ด้านนายธนกฤต ระบุว่า หมอที่ทำการรักษาน้องนิ้ง ระบุว่าสมองพิการตลอดชีวิต หมายความว่าน้องไม่สามารถรับรู้หรือเข้าใจได้เหมือนคนปกติทั่วไปแล้ว ศาลมีคำสั่งบุคคลไร้ความสามารถ โดยมีพี่ชายเป็นผู้อนุบาล เมื่อการเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาล จึงต้องเป็นพี่ชายที่รับผิดชอบ
นอกจากนี้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพกระทรวงสาธารณสุขที่มีหน้าที่ดูแลคลินิกต่างๆ จะเข้าตรวจสอบคลินิกดังกล่าวว่ามีการเปลี่ยนชื่อในการใช้ที่อยู่ใหม่และได้รับอนุญาตหรือไม่ ปฏิบัติตามระเบียบของการเปิดสถานพยาบาลคลินิกถูกต้องหรือไม่ ในขณะที่มีการพักการใช้ใบอนุญาต หากเปิดรักษาต่อไปอาจจะถูกดำเนินคดี รวมถึงตรวจสอบว่า กรณีของน้องนิ้งเป็นการผ่าตัดขนาดเล็ก อย่างน้อยต้องมีวิสัญญีแพทย์ ดังนั้นมีการปล่อยปละละเลยหรือไม่ ดูแลคนไข้จนกว่าจะรู้สึกตัวหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้าทางคดี พ.ต.อ.พรเทพ เปิดเผยว่า ได้เชิญเจ้าของคลินิกและหมอที่ทำศัลยกรรมมา เพื่อแจ้งข้อกล่าวหา วันที่ 5 มีนาคมนี้ ในข้อหาประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ยืนยันว่า ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจและให้ความมั่นใจว่าจะดำเนินการตามกฎหมาย และดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด.