สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 28 ก.ย.ว่าประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีคีเรียคอส มิตโซทาคิส ผู้นำกรีซ ที่ทำเนียบในกรุงปารีส เมื่อวันอังคาร โดยผู้นำทั้งสองคนร่วมกันเป็นสักขีพยาน ลงนามร่วมกันในข้อตกลงด้านกลาโหม มูลค่า 5,000 ล้านยูโร ( ราว 196,913.84 ล้านบาท ) ซึ่งรวมถึงการซื้อเรือฟริเกตของฝรั่งเศส "อย่างน้อย 3 ลำ" 
ทั้งนี้ ผู้นำฝรั่งเศสกล่าวถึงข้อตกลงดังกล่าว เป็นสัญญาณบ่งชี้ "ความเชื่อมั่น" ของรัฐบาลเอเธนส์ ที่มีต่ออุตสาหกรรมทางทหารของฝรั่งเศส แม้มีข้อเสนอน่าดึงดูดใจจากผู้ผลิตของฝั่งอเมริกา อาทิ ล็อกฮีด มาร์ติน
นายกรัฐมนตรีคีเรียคอส มิตโซทาคิส และประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ร่วมกันเป็นสักขีพยาน ในพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือทางทหาร ระหว่างกรีซกับฝรั่งเศส ที่กรุงปารีส
อนึ่ง การลงนามระหว่างฝรั่งเศสกับกรีซในครั้งนี้ เกิดขึ้นไม่นาน หลังออสเตรเลียยกเลิกข้อตกลงสั่งซื้อเรือดำน้ำมูลค่ามหาศาลกับฝรั่งเศส เนื่องจากไปเข้าร่วมกลุ่มออคัสกับสหรัฐ และสหราชอาณาจักร ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลแคนเบอร์ราได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีเรือดำน้ำจากทั้งสองประเทศ อย่างไรก็ตาม มาครงยืนยันว่า "ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น" นั้น "แทบไม่มีผลกระทบ" ต่อการเดินหน้าแผนยุทธศาสตร์ของรัฐบาลปารีส ในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก
แม้ไม่ได้ลงลึกในรายละเอียด แต่มาครงกล่าวว่า ยุโรปต้อง "ไม่ทำตัวไร้เดียงสา" กับการแข่งขันด้านภูมิศาสตร์การเมือง โดยกล่าวด้วยว่า สหรัฐ "เอาตัวเองเป็นใหญ่" แต่ยืนยันว่า เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำกรุงวอชิงตัน จะเดินทางกลับไปปฏิบัติหน้าที่ตามเดิม ในวันพุธที่ 29 ก.ย.นี้ หลังมีการเรียกตัวกลับมาเมื่อช่วงกลางเดือนเดียวกัน.

เครดิตภาพ : AP