เมื่อวันที่ 28 ก.ย. ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ตนได้ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ไปแล้วเมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา หลังจากครบกำหนด 15 วัน ที่ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านวาระ 3 จากที่ประชุมรัฐสภา โดยไม่มี ส.ส.หรือ ส.ว.เข้าชื่อขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความร่างกฎหมายดังกล่าว แม้ร่างรัฐธรรมนูญถึงมือนายกฯแล้ว แต่นายกฯยังมีเวลาพิจารณาช่วงหนึ่งว่าจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ หรือไม่ ตามขั้นตอนรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามถึงกรณีที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี รวบรวมรายชื่อประชาชนยื่นเรื่องให้ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น นายชวน กล่าวว่า เป็นเรื่องส่วนตัวของ นพ.วรงค์ แต่กระบวนการของรัฐสภา ถือว่าทำตามกรอบกฎหมายแล้ว หลังจากนี้เป็นภารกิจของรัฐบาลว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
เมื่อถามว่า ตอนนี้มีปัญหาข้อกฎหมาย เรื่องวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 158 ที่มีปัญหาเรื่องการตีความว่าจะเริ่มนับวาระดำรงตำแหน่งนายกฯ ของพล.อ.ประยุทธ์ ตั้งแต่ปี 57 หรือหลังจากที่รัฐธรรมนูญปี 60 มีผลบังคับใช้ นายชวน กล่าวว่า ขณะนี้สภาฯ ยังไม่มีปัญหา เป็นการแสดงความคิดเห็นทางกฎหมายของแต่ละคนที่แตกต่างกัน ทางสภาฯ ยังไม่มีใครยื่นเข้ามาขอให้ส่งตีความ ซึ่งการส่งตีความสามารถทำได้ แต่ขึ้นอยู่กับศาลรัฐธรรมนูญจะรับเรื่องไว้หรือไม่ เพราะขณะนี้ยังไม่มีปัญหาเกิดขึ้น
นายชวน ยังกล่าวถึงกรณีที่อาคารรัฐสภามีปัญหาน้ำรั่วเมื่อฝนตกหนักว่า อาคารใหญ่มักมีจุดบกพร่องอยู่แล้ว จะให้สมบูรณ์ 100% คงเป็นไปไม่ได้ แต่ตนได้ให้ฝ่ายเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเข้าไปดูแลในจุดที่มีปัญหาแล้ว แม้กระทั่งบริเวณชั้น 10 ห้องทำงานของตนก็มีปัญหาน้ำรั่วจากเครื่องปรับอากาศ อะไรที่มีปัญหาต้องให้ผู้ก่อสร้างมาแก้ปัญหา เมื่อมีปัญหาขึ้นมาคงหนีไม่พ้นถูกวิพากษ์วิจารณ์ ต้องยอมรับความเป็นจริง แม้สัญญาจะครบกำหนดไปตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค. 63 แต่ยังการรับมอบยังไม่สมบูรณ์ทั้งหมด ส่วนที่ นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ยื่นเรื่องให้ตรวจสอบการทุจริตการก่อสร้างอาคารรัฐสภา ที่มีเงินตกหล่น 2 ก้อน คือ 500 ล้านบาท และ 1,000 ล้านบาทนั้น สิ่งที่นายวัชระ ร้องเรียนมาตลอด ไม่ใช่เฉพาะเรื่องนี้ ที่ผ่านมามีการตั้งคณะกรรมการสอบตามที่ร้องเรียนมา อาทิ การตรวจสอบข้าราชการระดับสูงกรณีปัญหาชู้สาว เป็นต้น.
