สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ว่า นางเจน ซากี โฆษกหญิงทำเนียบขาว กล่าวในช่วงหนึ่งของการแถลง เมื่อวันจันทร์ เกี่ยวกับการที่แคนาดาปล่อยตัวน.ส.เมิ่ง หว่านโจว ผู้บริหารระดับสูงของหัวเว่ยและเป็นบุตรคนโตของผู้ก่อตั้งบริษัท แล้วหลังจากนั้นไม่นาน รัฐบาลปักกิ่งปล่อยตัวพลเมืองแคนาดา 2 คน ซึ่งถูกจับกุมและคุมขังในจีน ตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2561 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ทายาทหัวเว่ยถูกจับกุม "ไม่ใช่การแลกนักโทษ" และ "ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน"
SCMP Clips
ขณะเดียวกัน ซากีย้ำว่า "ข้อตกลง" ระหว่างกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐกับเมิ่ง "เป็นกระบวนการอิสระบนพื้นฐานของกฎหมาย" ทั้งนี้ ซากีกล่าวว่า ในช่วงหนึ่งของการสนทนาทางโทรศัพท์ ระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา ผู้นำจีนกล่าวถึงคดีความของทายาทหัวเว่ย ขณะที่ผู้นำสหรัฐเรียกร้องรัฐบาลปักกิ่งปล่อยพลเมืองแคนาดาทั้งสองคน คือ นายไมเคิล คอฟริก และนายไมเคิล สปาวอร์ 
อย่างไรก็ตาม โฆษกหญิงทำเนียบขาวยืนยันว่า การสนทนาของผู้นำทั้งสองคน "ไม่ใช่การเจรจาแลกเปลี่ยน" และ "ไม่มีข้อมูล" ว่า ไบเดนทราบรายละเอียด "มากเพียงใด" เกี่ยวกับการเจรจาระหว่างกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐ กับทายาทหัวเว่ยและทีมงานฝ่ายกฎหมายของเธอ โดยรัฐบาลวอชิงตันจะถอนฟ้องข้อกล่าวหาทั้งหมดภายในเดือน ธ.ค.ปีหน้า ขณะที่เมิ่ง "ยอมรับความผิดพลาด" ของเธอ เกี่ยวกับข้อตกลงทางธุรกิจที่เชื่อมโยงถึงอิหร่าน
South China Morning Post
ในอีกด้านหนึ่ง น.ส.หัว ชุนหยิง โฆษกหญิงกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวอย่างเป็นทางการครั้งแรกเกี่ยวกับกรณีของทายาทหัวเว่ย และชายชาวแคเนเดียนทั้งสองคนว่า "แตกต่างกัน" เธอยืนยันว่า คอฟริกและสปาวอร์ได้รับการปล่อยตัวภายใต้เงื่อนไขทางการแพทย์และมนุษยธรรม โดยนายโดมินิก บาร์ตัน เอกอัครราชทูตแคนาดาประจำกรุงปักกิ่ง ลงนามรับรอง ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศของแคนาดายืนยันว่า คอฟริกและสปาวอร์ "เป็นผู้บริสุทธิ์" ไม่ใช่จารชนตามที่ถูกกล่าวหา.

เครดิตภาพ : AP