จากกรณี น.ส.ชลลดา มุธุรงศ์ หรือน้องนุ่น อายุ 27 ปี หายไปตัวอย่างเป็นปริศนา หลังลงจากรถของสามี เวลากลางดึกของวันที่ 18 ก.พ. ที่ผ่านมา หลังกลับมาจากฉลองวันเกิดของสามี ซึ่งทางกลุ่มเพื่อนได้พากันโพสต์ตามหา แต่ยังไร้วี่แวว

ต่อมาพบโครงกระดูกมนุษย์ถูกเผา ใน ต.หนองโพรง อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นจุดใกล้เคียงกับสัญญาณพิกัด GPS โทรศัพท์มือถือสุดท้าย ของ น.ส.ชลลดา โดยที่ข้อมือพบสร้อยคอทองคำ คล้ายกับที่น้องนุ่น สวมใส่ในวันที่หาย กระทั่ง นายศิริชัย รักทอง สามีน้องนุ่น ได้รับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่า สาเหตุจากทะเลาะกัน นั้น

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง พล.ต.ต.ปรารถนา แผ่นผา ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสุนทร รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.คมกฤษณ์ คำบุศย์ ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.ท.ติรัส ตฤณเตชะ รอง ผกก.สส.สภ.ปากเกร็ด พ.ต.ท.แสงระวี ภูสอาด สว.สส.สภ.ปากเกร็ด พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ควบคุมตัว นายศิริชัย รักทอง อายุ 33 ปี สามีของน้องนุ่น หลังจากรับสารภาพแล้วนั้น นายศิริชัย ได้ยกมือขอขมาทาง น.ส.เพ็ญ พอตา อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นแม่ของนุ่น โดยร้องไห้อยู่ตลอดเวลา มีอาการโศกเศร้าเสียใจ

พล.ต.ต.ปรารถนา เปิดเผยว่า ขณะที่สอบปากคำ นายศิริชัย ให้การรับสารภาพว่า ได้ลงมือทำร้ายร่างกายอย่างไรบ้าง สาเหตุมาจากการที่ดื่มสุรา และเมามาก ซึ่งอาจจะมีการพูดถึงแฟนเก่าของของสามี เลยทะเลาะเบาะแว้งกันระหว่างที่เดินทางกลับบ้าน เป็นเหตุของการทำร้ายร่างกายตั้งแต่บนรถ ตอนช่วงที่อยู่บนรถ ยังไม่เสียชีวิต แต่เท่าที่สอบถามแล้ว นายศิริชัย ทำร้ายร่างกายแฟนอีกครั้งในบ้าน โดยใช้วัสดุบางอย่างทุบไปที่ศีรษะ เป็นอิฐตัวหนอน ด้วยความโมโหและความเมา เหตุเกิดวันที่ 18 ก.พ. 67 ช่วงประมาณตี 01.00 น. พอนายศิริชัย รู้ว่าเสียชีวิต ช่วงเช้าก็เดินทางออกจากบ้านประมาณ 09.00 น. โดยได้นำศพแฟนใส่กระเป๋าและเอาไว้ตรงเบาะด้านหลังฝั่งซ้าย มีลูกน้อยนั่งไปด้วยตลอดเวลา ก่อนนำศพไปทิ้งอำพรางที่ จ.ปราจีนบุรี เป็นจุดที่เปลี่ยว ซึ่งแรงจูงใจมาจากการหึงหวงและมีอาการเมาประกอบด้วย

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี เผยอีกว่า เบื้องต้นยืนยันเป็นศพของน้องนุ่น เนื่องจากมีสร้อยข้อมือที่สามารถระบุได้ ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปราจีนบุรีกำลังชันสูตรศพ ส่วนที่บ้านของนายศิริชัย มีร่องรอยหลักฐานภายในบ้านเป็นคราบเลือด ที่ผ่านมาทางผู้ชายมีพฤติกรรมรุนแรง ส่วนแม่คนตายมีอารมณ์โมโหมาก ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้ คนก่อเหตุได้แต่ขอโทษแม่ผู้เสียชีวิต และมีการขอขมาที่ทำลงไป โดยตัวแม่ของผู้ตายเองนั้น ได้สงสัยตัวลูกเขยอยู่แล้ว และไม่เชื่อตั้งแต่แรก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา “ฆ่าคนตายโดยเจตนาและฆ่าอำพรางศพ” ดำเนินคดีต่อไป.