เรียกว่าฮอตแบบฉุดไม่อยู่สำหรับหนุ่ม เจมีไนน์-นรวิชญ์ ฐิติเจริญรักษ์ นักแสดงและศิลปินน้องใหม่สุดคิวท์ ที่มีความสามารถรอบด้าน พร้อมโดดขึ้นรถมาโชว์เสียงละมุนในเพลง เอาไรว่ามา, ข้างกัน, คิดถึงเธอทุกที (ที่อยู่คนเดียว) งานนี้ยังโดนเซอร์ไพร้ส์จากศิลปินสาวรุ่นพี่ และเผยประสบการณ์วันวาเลนไทน์ ที่ไม่เคยได้ดอกไม้เลย เกิดมายังไม่เคยมีแฟน พร้อมประกาศความโสดให้โลกรู้ว่าจีบได้นะ ในรายการ “วอดอวอแว”
เจมีไนน์ เผยว่า “ผมเป็นคนชอบร้องเพลงตั้งแต่เด็กเลย ร้องเพลงมาตั้งแต่อยู่ประถม แล้วตอนมัธยมอยู่ในวงดนตรีของโรงเรียนด้วยเริ่มในรถนี่แหละครับ ตั้งแต่ตอนเด็กๆ พ่อแม่นั่งอยู่ข้างหน้า ผมก็ร้องเพลงอยู่ข้างหลัง พ่อแม่ก็บอกว่าร้องเพลงได้ไม่เพี้ยนเขาก็เลยส่งเราลองไปเรียนดู เวลามีโอกาสได้มีเพื่อนๆ ที่เล่นดนตรีได้ ก็ไปฟอร์มวงกันกับเพื่อนครับ ตอนนั้นก็มีความสุขมาก ได้อยู่กับเพื่อน ได้อยู่ในวงกับเพื่อนมันรู้สึกดีมาก ฟีลกู๊ดมาก ได้มาทำอะไรที่เราชอบด้วยกัน ประสบการณ์วาเลนไทน์เหรอ ผมไม่เคยได้ Celebrated เลย แต่ว่าที่โรงเรียนของผมมันจะมีเป็นฟีลมีตั้งบูธดอกไม้อยู่หน้าโรงเรียน แบบที่ไม่มีใครรู้ ไม่รู้จัก ผมไม่เคยได้เลยสักครั้งจริงๆ ตั้งแต่อยู่แฮร์โรว์มาประมาณ 7-8 ปี ไม่เคยได้เลย คริสต์มาส วาเลนไทน์ไม่เคยได้เลย แล้วดอกไม้ที่ได้ก็ได้จากแฟนคลับเมื่อปีก่อนเป็นครั้งแรกเลย”
“ประสบการณ์วันวาเลนไทน์ มันไม่ใช่ดอกไม้นะสิ ผมเคยให้อย่างอื่น แต่ในวันวาเลนไทน์ ผมเอาไปใส่ในกระเป๋าเขา ซึ่งเขาไม่รู้นะว่าตอนนั้นใครให้หรืออะไร แต่ผมอยากให้คนนี้ก็เลยใส่กระเป๋า ตอนนั้นผมก็ดูเขาอยู่ทั้งวันว่าเมื่อไหร่เขาจะเห็น แล้วพอเขาเห็นแล้ว เขาก็บอกว่าอันนี้ใครให้ถามในกลุ่มเพื่อนผู้หญิงเขา แล้วเราก็รู้สึกภูมิใจว่าเราให้เอง (ยิ้ม) แต่เขาไม่รู้ว่าใครให้เพราะผมไม่ได้เขียนชื่อไว้ แล้วผมไม่เคยจีบใครเลย เวลาผมชอบจะเป็นฟีลแอบชอบเฉยๆ ปลื้มห่างๆ เวลาเห็นเขาประสบความสำเร็จก็ดี แต่ถ้าใครมาจีบผมจะเป็นฟีลแบบเล่นตัว ไม่ค่อยอ่าน ไม่ค่อยตอบไลน์ คือไม่ค่อยเป็นคนชอบพูดว่ารักนะ คิดถึงนะ แต่จะเป็นคนที่เวลาอยู่ด้วยแล้วทำให้เห็นมากกว่า แล้วเป็นคนที่ติดสกินชิพมาก ขี้อ้อนด้วย แต่ด้วยความที่ผมไม่ค่อยมีเวลาต้องทำงาน แต่เชื่อไหม ผมไม่เคยมีแฟนเลยจริงๆ (หัวเราะ) ที่พูดมาก็คือสิ่งที่อยากทำ ป๊อปปี้เลิฟตอนเด็กๆ จีบได้นะครับ (หัวเราะ)”
“จริงๆ ผมเป็นคน Extrovert เวลาอยู่กับคนผมคุยได้ แต่ถ้าอยู่มากเกินไปอย่างทุกวันนี้โคตรเหนื่อยเลย ไม่ไหวแล้ว แต่ไม่ใช่ว่าเจอคนแล้วไม่ดีใจที่เจอนะ เวลาที่กลับไปบ้านเสร็จแล้วมันเหนื่อยมากๆ รู้สึกว่ามันเจอเรื่องโน้นเรื่องนี้มา เจอคนพูดโน่นนี่ๆ เข้าหัวตลอดทั้งวัน ทุกวัน แล้วมัน Burnout ไม่ไหวแล้ว ก็เลยหลังทำงานเสร็จก็กลับบ้านอยู่คนเดียวเลย แต่ถ้าขึ้นเวทีก็เต็มที่ผมโอเคมาก เวลาผมเจอแฟนคลับ เจอคนที่รักผม ได้ทำงาน ผมโอเคมาก”