เมื่อวันที่ 10 ก.พ. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้เดินทางมาตรวจติดตามการให้บริการผู้โดยสารช่วงเทศกาลตรุษจีน ปี 67 ระหว่างวันที่ 4-16 ก.พ. 67 และการแก้ไขปัญหาความหนาแน่นในการรอคิวตรวจหนังสือเดินทาง ซึ่งปัจจุบันมีผู้โดยสารเดินทางเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะหลังจากเริ่มมาตรการ Visa Free มีเที่ยวบินขาเข้าสูงถึง 1,040 เที่ยวต่อวัน เป็นตัวเลขที่อยู่ในระดับสูง มั่นใจว่าประเทศไทยจะดึงดูดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงาน เตรียมแผนเผชิญเหตุกรณีเกิดเหตุขัดข้อง และให้ใช้เทคโนโลยีทันสมัย เพื่ออำนวยความสะดวกผู้ใช้บริการอย่างเต็มประสิทธิภาพ รองรับและสนับสนุนนโยบายการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวของรัฐบาล พร้อมกันนี้ให้ทาง ตม.2 เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ให้บริการจุดตรวจคนเข้าเมืองทุกช่องบริการ ให้เพียงพอในการรองรับการใช้บริการผู้โดยสารในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยได้เสริมเจ้าหน้าที่เวรปฏิบัติงานนอกเวลา และให้เจ้าหน้าที่ ตม. จากจังหวัดต่างๆ เข้ามาช่วยปฏิบัติงานที่ ทสภ. รวมถึงยังได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกหน่วยปฏิบัติงานมาเป็นเจ้าหน้าที่ ตม.2 กว่า 60 นาย นอกจากนี้ ตม.2 ได้มีการบรรจุเจ้าหน้าที่ใหม่แล้ว 200 อัตรา ขณะนี้อยู่ในระหว่างการอบรมภาคทฤษฎี คาดว่าจะเริ่มปฏิบัติงานได้จริง ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. นี้ และมีแผนขอบรรจุอัตรากำลังเพิ่มอีก 400 อัตรา รวมเป็น 600 อัตรา ในอนาคต
นายสุริยะ กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันให้ตรวจสอบความพร้อมของช่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ (Automatic channels) โดยวางมาตรการในการป้องกันการขัดข้องของระบบ Biometric พร้อมให้จัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของระบบตลอด 24 ชั่วโมง (ชม.) รวมถึงได้เปลี่ยนเครื่องลูกข่ายหน้าช่องตรวจทุกช่องทั้งขาเข้า ขาออก ทำให้ระบบการทำงานดีขึ้น และในระยะยาว ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) จะจัดหาระบบใหม่ทดแทนเป็นระบบเดียว คือ ระบบ TIS (Thailand Immigration System) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจลงตรา ซึ่งจะทำให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
นายสุริยะ กล่าวด้วยว่า ทสภ. เตรียมเปิดใช้งานทางวิ่ง (รันเวย์) เส้นที่ 3 ในเดือน ก.ค. นี้ จะเพิ่มศักยภาพในการรองรับเที่ยวบินของ ทสภ. จากเดิม 67 เที่ยวบิน/ชั่วโมง เป็น 94 เที่ยวบิน/ชั่วโมง สนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย ตามแผนยกระดับประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการบินภูมิภาค (Aviation Upgrade) ของรัฐบาล เพื่อส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านการบินของภูมิภาค ทั้งนี้ ในช่วง 20 ปีก่อน ทสภ. ติดอันดับ 7 ของโลก แต่ปัจจุบันตกไปอยู่อันดับที่ 76 สาเหตุมาจากการถดถอยของการให้บริการ จึงให้เร่งปรับปรุงแก้ไข ให้ ทสภ. ติด 1 ใน 20 ของโลกให้ได้
นายสุริยะ กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีสายการบินหลายสายย้ายไปให้บริการที่อาคารเทียบเครื่องบินรอง หลังที่ 1 (SAT 1) เพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันมีเที่ยวบินเฉลี่ยต่อวันกว่า 86 เที่ยวบิน ถือเป็นเรื่องที่ดี คาดว่าภายในสิ้นเดือน ก.พ. 67 จะมีปริมาณเที่ยวบินเพิ่มขึ้นเป็น 112 เที่ยวบิน และมีสายการบินมาใช้บริการเพิ่มขี้นเป็น 16 สายการบิน จากเดิม 13 สายการบิน