ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.กรุณา เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผอ.ททท. สำนักงานเชียงราย นายบุญเชิด ลีลาคุณากร ท่องเที่ยวและกีฬา จ.เชียงราย พร้อมด้วยนายวชิระ รัศมีจันทร์ ประธานชมรมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย นางนงเยาว์ เนตรประสิทธิ์ นายกสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือ จ.เชียงราย นายวิโรจน์ ชายา นายกสมาคมโรงแรม จ.เชียงราย และฝ่ายเอกชนที่เกี่ยวข้องได้สำรวจสถานที่ท่องเที่ยวริมแม่น้ำโขงชายแดนไทย-สปป.ลาว ด้าน อ.เชียงแสน และ อ.เชียงของ เพื่อรองรับฤดูการท่องเที่ยวที่กำลังจะมาถึงในฤดูหนาวนี้

ในโอกาสเดียวกันนี้ นายวชิระ ได้เป็นตัวแทนภาคเอกชนยื่นหนังสือต่อ น.ส.กรุณา และ นายบุญเชิด เพื่อให้ส่งถึงรัฐบาลและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขอให้เปิดชายแดนไทยที่ติดกับแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว เนื่องจากก่อนหน้านี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ได้แถลงต่อสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา ว่า จะมีการเปิดด่านชายแดนไทยเฉพาะจุดหรือบับเบิลชายแดนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยแบ่งเป็น 4 ระยะ คือ ระยะแรกทยอยเปิดตั้งแต่เดือน ก.ค.-ก.ย.64 เริ่มต้นจาก จ.ภูเก็ต หรือภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ สมุยพลัสโมเดล จ.สุราษฎร์ธานี ฯลฯ

โดยในระยะที่ 4 ที่จะเป็นการเปิดบับเบิลชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านเริ่มตั้งแต่วันที่ 1-15 ม.ค.65 เป็นต้นไป ปรากฏว่ากรณี จ.เชียงราย ระบุให้เปิดเฉพาะด้าน อ.แม่สาย ที่ติดกับ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เท่านั้น แต่ด้านที่ติดกับ สปป.ลาว ตั้งแต่ อ.เชียงแสน อ.เชียงของ และ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย กลับไม่ปรากฏอยู่ในระบบ แต่มีเพียง จ.นครพนม หนองคาย และมุกดาหาร เท่านั้น ดังนั้นภาคเอกชนจึงเห็นว่าควรเปิดบับเบิ้ลด้าน อ.เชียงแสน และ อ.เชียงของ ควบคู่กันไปด้วยเพราะมีศักยภาพเหมือนกับ อ.แม่สาย เช่นเดียวกัน

เนื่องจาก จ.เชียงราย มีจุดผ่านแดนถาวรที่ อ.แม่สาย อ.เชียงแสน และ อ.เชียงของ ซึ่งต่างมีศักยภาพในการนำเข้าและส่งออกสินค้ การให้บริการเข้าและออกเมือง การบริการด้านเอกสารผ่านแดนทั่วไป หนังสือเดินทางระหว่างประเทศหรือพาสปอร์ต ฯลฯ โดยเป็นด่านสากลเหมือนกันแต่ในการเปิดบับเบิลชายแดนกลับให้เปิดเฉพาะจุดผ่านแดนถาวร อ.แม่สาย เพียงจุดเดียว ทำให้เชื่อว่าอาจเกิดจากการตกหล่นในรายชื่อ จ.เชียงราย ยังมีจุดผ่านแดนหลายจุดนอกเหนือจาก อ.แม่สาย คือจุดผ่านแดนถาวรที่ อ.เชียงแสน ติดต่อกับเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ซึ่งยังแบ่งเป็น 2 จุดคือจุดผ่านแดนถาวรเชียงแสนตรงกันข้ามที่ว่าการ อ.เชียงแสน และจุดผ่านแดนสามเหลี่ยมทองคำ บ้านสบรวก หมู่ 1 ต.เวียง อ.เชียงแสน อีกด้วย ขณะที่ อ.เชียงของ มีจุดผ่านแดนถาวรเชียงของตรงสะพานมิตรภาพไทย-สปป.ลาว ข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 ติดต่อกับเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ซึ่งมีถนนอาร์สามเอเชื่อมไปถึงประเทศจีน

ดังนั้นศักยภาพของจุดผ่านแดนของทั้ง 2 อำเภอ จึงสามารถส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวได้ จึงน่าเสียดายหากไม่ปรากฎรายชื่อในการเปิดบับเบิ้ลชายแดนดังกล่าว จึงได้ยื่นหนังสือผ่านทั้ง 2 หน่วยงานเพื่อให้ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้พิจารณาเพิ่มเติมต่อไป ทั้งนี้ ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวที่ไปเยือน จ.เชียงราย จะเป็นคนไทยมากถึงร้อยละ 80 ที่เหลือเป็นนักท่องเที่ยวจากชาติตะวันตกประมาณ 2-3% ชาวจีนกว่า 15-18% เมื่อเล็งเห็นถึงศักยภาพเมืองชายแดนจึงควรเปิดเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ไปเยือนส่วนประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันเมื่อเห็นถึงศักยภาพก็จะทยอยเปิดเพื่อให้ติดต่อเชื่อมโยงกันได้ต่อไป